ผมเขียนบันทึกนี้ขึ้นมาจากการแนะนำของเพื่อนในเฟซบุ้ค จุดประสงค์เพื่อให้คนเสื้อแดงได้เข้าใจตัวตนของผมและเจตนารมย์ของกิจกรรมเส้นทางสีแดง ก่อนที่จะถึงกำหนดทำกิจกรรมเส้นทางสีแดงให้กำลังใจนายกยิ่งลักษณ์ อาทิตย์ 27 พย. 2554
ผมเริ่มเป็นคนเสื้อแดงตั้งแต่วันที่ 10 เมย. 2553 ซึ่งเป็นวันแรกที่ผมออกไปชุมนุมที่ราชประสงค์เพื่อค้นหาความจริงว่าคนเสื้อแดงถูกจ้างมาชุมนุมจริงหรือไม่ และจำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุมมีเพียงหลักพันจริงหรือไม่ ผมพบความจริงด้วยตัวเองจากการออกไปชุมนุมอย่างต่อเนื่องว่าผมไม่เคยพบใครที่รับเงินมาชุมนุม ทุกคนออกมาชุมนุมด้วยใจ ด้วยอุดมการณ์ประชาธิปไตยเพือเรียกร้องให้รัฐบาลที่ไม่ได้ชนะเลือกตั้งยุบสภา ผมพบว่าผู้เข้าร่วมชุมนุมมาจากทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศไทย ชาวนาชาวไร่ ครู ข้าราชการ พนักงานเอกชน นักศึกษา หน้าเวทีมีแม่บ้านตำรวจมากที่สุด มีทุกเพศทุกวันตั้งแต่เด็ก 10 ขวบจนถึงคนชราอายุ 70 ผู้ชุมนุมส่วนมากเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
หลังเวทีแตก 19 พค.ผมเข้าไปฝังตัวในแคฟร้อกและเริ่มกลายมาเป็นนักสู้เสื้อแดง ผมเริ่มการต่อสู้จากการศึกษาประวัติศาสตร์ที่ไม่มีการเรียนการสอนในห้องเรียน เริ่มแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนเสื้อแดง เนื่องจากเคยเป็นอาจารย์สอนหนังสือในมหาวิทยาลัยหลายปี ผมเริ่มจับไมค์ในแคมฟร้อกและปลุกใจให้คนเสื้อแดงลุกขึ้นสู้ บางครั้งผมได้รับการขอร้องจากการ์ดที่ต้องระหกระเหินในภาคอีสานเนื่องจากถูกทหารตามล่า ครอบครัวของการ์ดหลายคนเดือดร้อน ลูกเมียไม่มีคนดูแล ไม่มีเงินใช้จ่าย แม่ไม่มีเงินซื้อนมให้ลูก ผมเริ่มจับไมค์เพื่อขอความช่วยเหลือให้บุคคลเหล่านี้
ผมเริ่มรับแนวคิดแกนนอนของคุณสมบัติ บุญงามอนงค์โดยจัดกิจกรรมรำลึกเสธแดงและชวนเพื่อนๆในแคมฟร้อกมาช่วยกันจัดกิจกรรม (รายะเอียดดูได้จากบันทึกในเพจของผม) จากนั้นผมได้มีโอกาสเข้าพบตัวแทนของกาชาดสากลเพื่อให้ข้อมูลการสลายการชุมนุม ได้สอบถามถึงบทบาทของกาชาดสากลในการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะการเยี่ยมเยียนผู้ต้องขัง ซึ่งผมพบว่ากาชาดสากลทำงานลำบากเนื่องจากถูกปิดกั้นจากรัฐบาลเผด็จการในขณะนั้น ผมจึงได้แจ้งกับกาชาดสากลว่าผมจะชวนเพื่อนๆไปเยี่ยมคนเสื้อแดงโดยจะเริ่มในภาคอีสานซึ่งเป็นภูมิภาคที่คนเสื้อแดงเสียชีวิตากที่สุด นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการเส้นทางสีแดง (Red Path Project)
โครงการนี้ถูกวางแนวคิดว่าจะเป็นการเดินทางโดยแรงกายของมนุษย์เพื่อไปเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจคนเสื้อแดงที่พ่ายแพ้และหวาดกลัวการปราบปรามอย่างทารุณของเผด็จการ ในเบื้องต้นผมตั้งใจที่จะชวนเพื่อนๆไม่กี่คนเดินเท้าไปภาคอีสาน มีคนแนะนำผมให้ชวนคุณแป๊ะ คนบางสนานและทีมสองขาประชาธิปไตยเข้าร่วมเนื่องจากมีอุดมการณ์คล้ายๆกัน ผมนัดพบกับคุณแป๊ะและสมาชิกกลุ่มสองขาเมื่อประมาณเดือนกย.2553 ที่อิมพีเรียลลาดพร้าว เริ่มมีการพูดคุยถึงแนวทางของโครงการ จากนั้นผมได้ไปเชิญคุณสมบัติ บุญงามอนงค์เป็นที่ปรึกษาโครงการ และเชิญกลุ่มวันอาทิตย์สีแดงเข้าเป็นผู้ร่วมจัดกิจกรรม รวมถึงมูลนิธิวีรชนเพื่อประชาธิปไตยที่ส่งตัวแทนมาเข้าร่วมนำของบริจาคเช่นผ้าห่มไปแจกชาวบ้าน นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการเส้นทางสีแดง
กิจกรรมแรกที่อีสานเป็นกิจกรรมใหญ่ที่สุดที่คนเสื้อแดงเคยทำมา กิจกรรรมนี้ใช้เวลา 31 วัน ระยะทางในการปั่นจักรยาน 1,700 กม.จุดประสงค์คือเพื่อปลุกใจให้คนเสื้อแดงทั้งประเทศลุกขึ้นสู้ พวกเราแต่ละคนไม่เคยมีประสพการณ์ในการทำกิจกรรมนี้มาก่อน กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมเปิด นั่นหมายถึงคนเสื้อแดงสามารถมาร่วมกิจกรรมนี้ได้เนื่องจากเป็นกิจกรรมจิตอาสา ไม่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจกรรม ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีคนหลากหลายประเภทเข้ามาร่วมกิจกรรม
กิจกรรมนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศจากกรณีที่มีข่าวมีตำรวจนอกแถวลอบยิงขบวนปั่นจักรยานในวันที่ 5 ของกิจกรรมที่ลำตะคอง คนร้ายซึ่งเป็นตำรวจชื่อพ.ต.ท. ฐาปนฤทธิ์ อุทัยวงศ์ ซึ่งคนเสื้อแดงเชื่อกันว่าเป็นคนที่พรรคคนปากห้อยส่งมา อาวุธที่ใช้คือปืนยาวบรรจุกระสุนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 4 นัด สาเหตุที่คนร้ายเลือกใช้ปืนยาวมีการวิเคราะห์ว่าปืนยาวเป็นปืนของชาวบ้าน และหากยิงสำเร็จก็จะมีการปล่อยข่าวทางสื่อว่าชาวอีสานเกลียดคนเสื้อแดง ไม่ต้อนรับคนเสื้อแดง และจะมีการปั่นกระแสนี้เพื่อหวังผลในการเลือกตั้งครั้งต่อไป (ปั่นเพื่อให้เกิดกระแสชิงชังคนเสื้อแดง คนอีสานไม่เอาพรรคเพื่อไทย และพรรคที่จะได้ประโยชน์คือพรรคการเมืองที่เป็นคู่แข่งที่เคยหักหลังคุณทักษินมาแล้ว)
กิจกรรมนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนค่อนข้างมาก สถานี VOICE TV ส่งผู้สื่อข่าวติดตามไปทำข่าวกิจกรรมไปจนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทางคือที่หนองคาย http://www.youtube.com/watch?v=OycrnukFARw ภาพที่ออกมาของกิจกรรมนี้สะท้อนให้ถึงความเสียสละของคนเสื้อแดงกลุ่มหนึ่งไม่ยอมแพ้ต่อเผด็จการ แต่เป็นธรรมดาที่การทำกิจกรรมที่ทรหดแบบนี้ร่วมกับคนหมู่มากย่อมเกิดความคิดเห็นที่ไม่ลงรอยในบางเรื่อง มีประสพการณ์หลายอย่างที่ผมได้รับจากกิจกรรมนี้ โดยเฉพาะการพบว่าหลังเวทีแตกคนเสื้อแดงในแต่ละจังหวัดได้ลุกขึ้นมานำกันเอง และบางครั้งก็เกิดการขัดแย้งในการทำงานโดยเฉพาะในเรื่องของการแย่งมวลชนและการชิงกันนำ ซึ่งสำหรับผมเป็นเรื่องปกติ การขัดแย้งเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นถึงการพัฒนา (conflicts lead to development) บางครั้งพวกเราก็ถูกลากเข้าสู่ความขัดแย้งของแกนนำแต่ละกลุ่มในจังหวัด บางครั้งไปทำกิจกรรมกับกลุ่มหนึ่ง อีกกลุ่มหนึ่งก็จะไม่พอใจ ออกข่าวโจมตีโดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริง เช่นกรณีที่เกิดขึ้นกับพวกเราที่จังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคอีสาน พวกเราพยายามทำกิจกรรมให้กับแดงทุกกลุ่ม ทั้งการเยียนเยียนผู้ต้องขังเสื้อแดง เยี่ยมเยียนสถานีวิทยุ เยี่ยมเยียนพ่อแม่ของดีเจที่ถูกจับติดคุก เยี่ยมคนพิการที่ตาบอดเพราะแก๊สน้ำตา แต่สิ่งที่ผมได้รับเป็นของฝากจากพี่น้องบางคนที่อีสานคือคำใส่ร้ายว่าผมเป็นแดงเทียมบ้าง ไปร่วมงานกับกลุ่มที่ถูกสีน้ำเงินซื้อตัวบ้าง (ทั้งที่เพิ่งจะถูกตำรวจนอกแถวใส่เสื้อสีน้ำเงินลอยยิงที่ลำตะคอง)
เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพมีข่าวลือที่ปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งกล่าวหาว่าเป็นแดงเทียม และปัญหาเงินบริจาค ประเด็นเรื่องเงินบริจาคเป็นเรื่องทีสร้างความปวดหัวให้กับผมมากที่สุด มีการปล่อpข่าวว่าผมนำเงินบริจาคไปใช้ส่วนตัวบ้าง ไปใช้นวดตัวทำสปาบ้าง เอาไปนอนโรงแรมบ้าง บ้าๆบอๆ ผมเห็นเป็นเรื่องไม่มีสาระจึงไม่ได้ชี้แจง กลายเป็นว่าเรื่องที่ไม่มีสาระกลับได้รับความสนใจ แต่กลับเรื่องที่ผมอยากให้เป็นสาระ (เช่นเรื่องการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบกลับไม่ค่อยมีคนให้ความสำคัญ) และหากผมพูดในทุกรายละเอียดจะสร้างความเสียหายให้กับคนเสื้อแดงโดยรวม แน่นอนว่าสื่ออย่าง ASTV และ Nation จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปเผยแพร่อย่างสนุกสนาน และอุดมการณ์คนเสื้อแดงก็จะหมองมัว จึงอยากจะถือโอกาสนี้ยืนยันว่าให้คนเสื้อแดงได้สบายใจว่าผมไม่เคยมีพฤติกรรมดังว่า ผม
ใช้เงินส่วนตัวในการทำกิจกรรมมาตลอด และที่อีสานผมยังไม่ได้รับเงินที่สำรองจ่ายคืนจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ ได้โปรดอย่าให้ผมพูดมากไปกว่านี้เลย
ในการทำกิจกรรมที่ภาคเหนือของเส้นทางสีแดง มีเรื่องที่เป็นข่าวใหญ่โตทั่วประเทศจากกรณีที่พวกเราไปขึ้นเวทีคนไทยหัวใจรักชาติ สาเหตุก็คือว่าวันนั้นเป็นวันแรกที่ขบวนแรลลี่เส้นทางสีแดงออกเดินทางจากราชประสงค์จะไปเยี่ยมเยียนพี่น้องที่ภาคเหนือ พวกเราเคลื่อนขบวนออกจากราชประสงค์ในเวลาเที่ยงวันและต้องไปที่อนุเสาวรีย์พระเจ้าตากที่วงเวียนใหญ่ในเวลาบ่ายโมงซึ่งมีสื่อมวลชนรอทำข่าว พวกเราแรลลี่ผ่านถนนพิษณุโลกและพบว่ากลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติได้ปิดถนนและตั้งเวทีปราศัย การปิดถนนดังกล่าวทำให้พวกเราไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ ผมได้เจรจากับการ์ดเพื่อขอเปิดทาง การ์ดได้ตามคุณไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ซึ่งมาพร้อมกับนักข่าวนับสิบๆคน เมื่อมาถึงคุณไชยวัฒน์ได้ยกมือไหว้ทักทายพวกเราและขอจับมือพวกเราเพื่อแสดงไมตรี นักข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์จึงถ่ายภาพเหล่านั้นไว้เพราะเป็นภาพที่หาไม่ง่ายนัก เมื่อทราบจุดประสงค์ของเราคุณไชยวัฒน์ได้เชื้อเชิญให้พวกเราส่งตัวแทนขึ้นไปกล่าวคำทักทายพี่น้องคนไทยด้วยกัน มวลชนในวันนั้นไม่ใช่คนเสื้อเหลือง อย่างน้อยพวกเราแต่งกายแบบชาวบ้านและส่วนใหญ่เป็นชาวชนบทที่มาจากภาคอีสานน ผมเห็นว่าถึงแม้จะต่างอุดมการณ์กันแต่การที่คนเสื้อแดงและคนเสื้อเหลืองพบกันไม่จำเป็นต้องด่าทอกันเหมือนคนไร้การศึกษา สำหรับผมขณะนั้นไม่เห็นว่าเป็นเรื่องเสียหาย ผมจึงได้ไปขึ้นเวทีพร้อมกับสมาชิกอีก 4-5 คน และกล่าวคำทักทายบนเวทีสั้นๆ และพวกเราพูดเฉพาะเรื่องของพวกเราโดยเน้นไปที่การแนะนำตัว ภารกิจและเป้าหมายของกิจกรรม และผมเป็นผู้ที่กล่าวปิดท้ายโดยสรุปว่า "กลุ่มเส้นทางสีแดงเป็นกลุ่มที่ไม่มีพรรคการเมืองใดอยู่เบื้องหลัง และเราดำเนินกิจกรรมในภาคประชาชน ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครสั่งให้เราทำซ้ายทำขวา เราทำทุกอย่างเพื่อสันติสุขของคนไทยและแผ่นดินไทย http://www.youtube.com/watch?v=dnQgWxtYtJs " และ http://www.youtube.com/watch?v=dnQgWxtYtJs
หลังจากนั้นเราได้รีบออกมาจากบริเวณและมุ่งหน้าไปที่วงเวียนใหญ่เพื่อทำกิจกรรมตามกำหนด แต่ปรากฏว่าการขึ้นเวทีครั้งนั้นเป็นข่าวใหญ่โตทั้งๆที่เราเป็นกลุ่มที่ทำกิจกรรมกลุ่มเล็กๆ และเนื่องจากการทำกิจกรรมของเราส่วนใหญ่จะใช้เวลาอยู่บนท้องถนนในการปั่นจักรยาน และออกเยี่ยมเยียนชาวบ้านจนค่ำมืดดึกดื่น จึงทำให้ได้รับข่าวสารน้อยมาก ในขณะที่กลุ่มที่คอยปล่อยข่าวลือได้โหมกระหน่ำปล่อยข่าวลือสารพัด มีทั้งการปล่อยข่าวว่าพวกเราเป็นแดงเทียมบ้าง เป็นเหลืองบ้าง รับงานรับเงินเนวินมาขึ้นเวทีเหลืองเพื่อดึงมวลชนบ้าง บ้าๆบอๆไร้สาระ บางคนไปไกลขนาดอัดคลิปด่าผมส่งเผยแพร่ทางอินเทอร์เนท แต่ปรากฏว่าเรื่องไร้สาระกลับได้รับความสนใจ และการที่ผมไม่ให้ความสนใจกับการชี้แจงเรื่องเหลวไหลทำให้ข่าวลือดังกล่าวแพร่ไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ผมได้ชี้แจงและอธิบายกับมวลชนเท่าที่จะทำได้ ทั้งการชี้แจงในทุกที่ทุกจังหวัดที่เราผ่านไป ทั้งการเขียนบทความส่งไทยอีนิวส์ http://thaienews.blogspot.com/2011/01/blog-post_22.html รวมถึงการทำคลิปเพื่อขอโทษมวลชนที่อาจเข้าใจผิดในอุดมการณ์ของพวกเรา http://www.youtube.com/watch?v=Bc0BjyargYc
ผมจึงขอเรียนตรงนี้อีกครั้งว่าผมไม่เคยเป็นคนเสื้อเหลือง และไม่เคยคิดจะเป็นคนเสื้อเหลือง เพราะไม่ชอบนิสัยของคนเสื้อเหลืองและอุดมการณ์คลั่งชาติ และผมคิดว่าในชีวิตนี้ไม่สามารถเป็นอย่างอื่นได้นอกจากเป็นคนเสื้อแดงและนักสู้เสื้อแดง นักสู้เสื้อแดงสำหรับผมคือใครก็ตามที่อุทิศตนเพื่อนำความถูกต้อง ความยุติธรรม และนำประชาธิปไตยกลับสู่ประเทศนี้ และจำต้องต่อสู้ปกป้องรักษาประชาธิปไตยให้พ้นจากเผด็จการ นักสู้เสื้อแดงเป็นได้ทั้งนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีอุดมการณ์ เป็นได้ทั้งคนปั่นจักรยานทางไกลเพื่อปลุกใจให้ชนบทของไทยลุกขึ้นมาสู้ นักสู้เสื้อแดงเป็นได้ทั้งคนที่อยู่เบื้องหลังคอยเผยแพร่ข่าวสารที่เป็นจริงและเป็นประโยชน์ต่อประชาธิปไตย
หากมีเวลาผมจะกลับมาเขียนบันทึกนี้เพิ่มเติมเพื่อเป็นหลักฐานในการทำกิจกรรมที่สมบูรณ์ของกลุ่มเส้นทางสีแดง เพื่อที่ว่าวันใดวันหนึ่งหากเกิดอะไรขึ้นกับผม ลูกหลานของผมจะได้รู้ว่าพ่อของเขาเคยอุทิศตนเพื่อคนเสื้อแดงและประชาธิปไตยของประเทศนี้ และสิ่งที่พ่อของเขามอบให้กับเขาคือความหวังที่จะได้เห็นอนาคตที่ดีกว่าสำหรับคนรุ่นหลัง และสำหรับวันนี้เป็นวันเกิดลูกชายคนเล็กของผม บันทึกนี้จะเป็นของขวัญที่เขาจะได้อ่านในอนาคต
ราตรีสวัสดิ์
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คลิปกิจกรรมที่น่าสนใจ :
http://www.youtube.com/watch?v=iTNcfumdNSY เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบที่บ้านโป่ง ราชบุรี 17 มค. 54
http://www.youtube.com/watch?v=enM70BWwm-g เยี่ยวยาผู้ได้รับผลกระทบที่กาญจนบุรี บ้านพล.โท มะ โพธิ์งาม 19 มค.54
http://www.youtube.com/watch?v=enM70BWwm-g เยียวยาผู้สูญเสีย กาญจนบุรี 20 มค. 54
http://www.youtube.com/watch?v=P1pGtxXhMZc ไหว้อัฐิวีรชน ชััยนาท 23 มค.54
http://www.youtube.com/watch?v=HcPL5aiHpgA เยี่ยมและมอบเงินบริจาค นักโทษเสื้อแดง เชียงใหม่ 8 กพ. 54 (1)
http://www.youtube.com/watch?v=nOrhQduQuY4&feature=related เยี่ยมและมอบเงินบริจาคนักโทษเสื้อแดง เชียงใหม่ 8 กพ.54 (2)
http://www.youtube.com/watch?v=odRaRrPeC9c มอบเงินบริจาคเพื่อเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต จ.เชียงราย 10 กพ. 54
http://www.youtube.com/watch?v=Z2GCmg7BkCs มอบเงินเยียวยาผู้พิการ จันทบุรี 13 พค.54
http://www.youtube.com/watch?v=pWo8JSRM2qY ความฝันของดญ.ปลายฟ้า อ.ชุมแพ ขอนแก่น 18 พค. 54
http://www.youtube.com/watch?v=kZH5XmbJ8fY จดหมายขอทุนการศึกษาดญ.ปลายฟ้า อ.ชุมแพ ขอนแก่น 18 พค.54
http://www.youtube.com/watch?v=RSVx9XJJkmo เยียวยาชายตาบอด อุดร 21 พค.54 (1)
http://www.youtube.com/watch?v=RSVx9XJJkmo เยียวยาชายตาบอด อุดร 21 พค.54 (2)
http://www.youtube.com/watch?v=39oVIHMOcZs เยี่ยมและเยียวยาเด็กกำพร้า อ.ปากคาด หนองขาย 22 พค. 54
http://www.youtube.com/watch?v=Sk4L6uvqOcI เยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิต หนองบัวลำภู 24 พค.54
http://www.youtube.com/watch?v=BBLw6THCXUQ เยี่ยมผู้ต้องขัง เรือนจำเชียงใหม่ 22 มิย. 54 (1)
http://www.youtube.com/watch?v=kdDBZL7Ao00 เยี่ยมผู้ต้องขัง เรือนจำเชียงใหม่ 22 มิย. 54 (2)
ผมเริ่มเป็นคนเสื้อแดงตั้งแต่วันที่ 10 เมย. 2553 ซึ่งเป็นวันแรกที่ผมออกไปชุมนุมที่ราชประสงค์เพื่อค้นหาความจริงว่าคนเสื้อแดงถูกจ้างมาชุมนุมจริงหรือไม่ และจำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุมมีเพียงหลักพันจริงหรือไม่ ผมพบความจริงด้วยตัวเองจากการออกไปชุมนุมอย่างต่อเนื่องว่าผมไม่เคยพบใครที่รับเงินมาชุมนุม ทุกคนออกมาชุมนุมด้วยใจ ด้วยอุดมการณ์ประชาธิปไตยเพือเรียกร้องให้รัฐบาลที่ไม่ได้ชนะเลือกตั้งยุบสภา ผมพบว่าผู้เข้าร่วมชุมนุมมาจากทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศไทย ชาวนาชาวไร่ ครู ข้าราชการ พนักงานเอกชน นักศึกษา หน้าเวทีมีแม่บ้านตำรวจมากที่สุด มีทุกเพศทุกวันตั้งแต่เด็ก 10 ขวบจนถึงคนชราอายุ 70 ผู้ชุมนุมส่วนมากเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
หลังเวทีแตก 19 พค.ผมเข้าไปฝังตัวในแคฟร้อกและเริ่มกลายมาเป็นนักสู้เสื้อแดง ผมเริ่มการต่อสู้จากการศึกษาประวัติศาสตร์ที่ไม่มีการเรียนการสอนในห้องเรียน เริ่มแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนเสื้อแดง เนื่องจากเคยเป็นอาจารย์สอนหนังสือในมหาวิทยาลัยหลายปี ผมเริ่มจับไมค์ในแคมฟร้อกและปลุกใจให้คนเสื้อแดงลุกขึ้นสู้ บางครั้งผมได้รับการขอร้องจากการ์ดที่ต้องระหกระเหินในภาคอีสานเนื่องจากถูกทหารตามล่า ครอบครัวของการ์ดหลายคนเดือดร้อน ลูกเมียไม่มีคนดูแล ไม่มีเงินใช้จ่าย แม่ไม่มีเงินซื้อนมให้ลูก ผมเริ่มจับไมค์เพื่อขอความช่วยเหลือให้บุคคลเหล่านี้
ผมเริ่มรับแนวคิดแกนนอนของคุณสมบัติ บุญงามอนงค์โดยจัดกิจกรรมรำลึกเสธแดงและชวนเพื่อนๆในแคมฟร้อกมาช่วยกันจัดกิจกรรม (รายะเอียดดูได้จากบันทึกในเพจของผม) จากนั้นผมได้มีโอกาสเข้าพบตัวแทนของกาชาดสากลเพื่อให้ข้อมูลการสลายการชุมนุม ได้สอบถามถึงบทบาทของกาชาดสากลในการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะการเยี่ยมเยียนผู้ต้องขัง ซึ่งผมพบว่ากาชาดสากลทำงานลำบากเนื่องจากถูกปิดกั้นจากรัฐบาลเผด็จการในขณะนั้น ผมจึงได้แจ้งกับกาชาดสากลว่าผมจะชวนเพื่อนๆไปเยี่ยมคนเสื้อแดงโดยจะเริ่มในภาคอีสานซึ่งเป็นภูมิภาคที่คนเสื้อแดงเสียชีวิตากที่สุด นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการเส้นทางสีแดง (Red Path Project)
โครงการนี้ถูกวางแนวคิดว่าจะเป็นการเดินทางโดยแรงกายของมนุษย์เพื่อไปเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจคนเสื้อแดงที่พ่ายแพ้และหวาดกลัวการปราบปรามอย่างทารุณของเผด็จการ ในเบื้องต้นผมตั้งใจที่จะชวนเพื่อนๆไม่กี่คนเดินเท้าไปภาคอีสาน มีคนแนะนำผมให้ชวนคุณแป๊ะ คนบางสนานและทีมสองขาประชาธิปไตยเข้าร่วมเนื่องจากมีอุดมการณ์คล้ายๆกัน ผมนัดพบกับคุณแป๊ะและสมาชิกกลุ่มสองขาเมื่อประมาณเดือนกย.2553 ที่อิมพีเรียลลาดพร้าว เริ่มมีการพูดคุยถึงแนวทางของโครงการ จากนั้นผมได้ไปเชิญคุณสมบัติ บุญงามอนงค์เป็นที่ปรึกษาโครงการ และเชิญกลุ่มวันอาทิตย์สีแดงเข้าเป็นผู้ร่วมจัดกิจกรรม รวมถึงมูลนิธิวีรชนเพื่อประชาธิปไตยที่ส่งตัวแทนมาเข้าร่วมนำของบริจาคเช่นผ้าห่มไปแจกชาวบ้าน นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการเส้นทางสีแดง
กิจกรรมแรกที่อีสานเป็นกิจกรรมใหญ่ที่สุดที่คนเสื้อแดงเคยทำมา กิจกรรรมนี้ใช้เวลา 31 วัน ระยะทางในการปั่นจักรยาน 1,700 กม.จุดประสงค์คือเพื่อปลุกใจให้คนเสื้อแดงทั้งประเทศลุกขึ้นสู้ พวกเราแต่ละคนไม่เคยมีประสพการณ์ในการทำกิจกรรมนี้มาก่อน กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมเปิด นั่นหมายถึงคนเสื้อแดงสามารถมาร่วมกิจกรรมนี้ได้เนื่องจากเป็นกิจกรรมจิตอาสา ไม่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจกรรม ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีคนหลากหลายประเภทเข้ามาร่วมกิจกรรม
กิจกรรมนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศจากกรณีที่มีข่าวมีตำรวจนอกแถวลอบยิงขบวนปั่นจักรยานในวันที่ 5 ของกิจกรรมที่ลำตะคอง คนร้ายซึ่งเป็นตำรวจชื่อพ.ต.ท. ฐาปนฤทธิ์ อุทัยวงศ์ ซึ่งคนเสื้อแดงเชื่อกันว่าเป็นคนที่พรรคคนปากห้อยส่งมา อาวุธที่ใช้คือปืนยาวบรรจุกระสุนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 4 นัด สาเหตุที่คนร้ายเลือกใช้ปืนยาวมีการวิเคราะห์ว่าปืนยาวเป็นปืนของชาวบ้าน และหากยิงสำเร็จก็จะมีการปล่อยข่าวทางสื่อว่าชาวอีสานเกลียดคนเสื้อแดง ไม่ต้อนรับคนเสื้อแดง และจะมีการปั่นกระแสนี้เพื่อหวังผลในการเลือกตั้งครั้งต่อไป (ปั่นเพื่อให้เกิดกระแสชิงชังคนเสื้อแดง คนอีสานไม่เอาพรรคเพื่อไทย และพรรคที่จะได้ประโยชน์คือพรรคการเมืองที่เป็นคู่แข่งที่เคยหักหลังคุณทักษินมาแล้ว)
กิจกรรมนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนค่อนข้างมาก สถานี VOICE TV ส่งผู้สื่อข่าวติดตามไปทำข่าวกิจกรรมไปจนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทางคือที่หนองคาย http://www.youtube.com/watch?v=OycrnukFARw ภาพที่ออกมาของกิจกรรมนี้สะท้อนให้ถึงความเสียสละของคนเสื้อแดงกลุ่มหนึ่งไม่ยอมแพ้ต่อเผด็จการ แต่เป็นธรรมดาที่การทำกิจกรรมที่ทรหดแบบนี้ร่วมกับคนหมู่มากย่อมเกิดความคิดเห็นที่ไม่ลงรอยในบางเรื่อง มีประสพการณ์หลายอย่างที่ผมได้รับจากกิจกรรมนี้ โดยเฉพาะการพบว่าหลังเวทีแตกคนเสื้อแดงในแต่ละจังหวัดได้ลุกขึ้นมานำกันเอง และบางครั้งก็เกิดการขัดแย้งในการทำงานโดยเฉพาะในเรื่องของการแย่งมวลชนและการชิงกันนำ ซึ่งสำหรับผมเป็นเรื่องปกติ การขัดแย้งเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นถึงการพัฒนา (conflicts lead to development) บางครั้งพวกเราก็ถูกลากเข้าสู่ความขัดแย้งของแกนนำแต่ละกลุ่มในจังหวัด บางครั้งไปทำกิจกรรมกับกลุ่มหนึ่ง อีกกลุ่มหนึ่งก็จะไม่พอใจ ออกข่าวโจมตีโดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริง เช่นกรณีที่เกิดขึ้นกับพวกเราที่จังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคอีสาน พวกเราพยายามทำกิจกรรมให้กับแดงทุกกลุ่ม ทั้งการเยียนเยียนผู้ต้องขังเสื้อแดง เยี่ยมเยียนสถานีวิทยุ เยี่ยมเยียนพ่อแม่ของดีเจที่ถูกจับติดคุก เยี่ยมคนพิการที่ตาบอดเพราะแก๊สน้ำตา แต่สิ่งที่ผมได้รับเป็นของฝากจากพี่น้องบางคนที่อีสานคือคำใส่ร้ายว่าผมเป็นแดงเทียมบ้าง ไปร่วมงานกับกลุ่มที่ถูกสีน้ำเงินซื้อตัวบ้าง (ทั้งที่เพิ่งจะถูกตำรวจนอกแถวใส่เสื้อสีน้ำเงินลอยยิงที่ลำตะคอง)
เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพมีข่าวลือที่ปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งกล่าวหาว่าเป็นแดงเทียม และปัญหาเงินบริจาค ประเด็นเรื่องเงินบริจาคเป็นเรื่องทีสร้างความปวดหัวให้กับผมมากที่สุด มีการปล่อpข่าวว่าผมนำเงินบริจาคไปใช้ส่วนตัวบ้าง ไปใช้นวดตัวทำสปาบ้าง เอาไปนอนโรงแรมบ้าง บ้าๆบอๆ ผมเห็นเป็นเรื่องไม่มีสาระจึงไม่ได้ชี้แจง กลายเป็นว่าเรื่องที่ไม่มีสาระกลับได้รับความสนใจ แต่กลับเรื่องที่ผมอยากให้เป็นสาระ (เช่นเรื่องการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบกลับไม่ค่อยมีคนให้ความสำคัญ) และหากผมพูดในทุกรายละเอียดจะสร้างความเสียหายให้กับคนเสื้อแดงโดยรวม แน่นอนว่าสื่ออย่าง ASTV และ Nation จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปเผยแพร่อย่างสนุกสนาน และอุดมการณ์คนเสื้อแดงก็จะหมองมัว จึงอยากจะถือโอกาสนี้ยืนยันว่าให้คนเสื้อแดงได้สบายใจว่าผมไม่เคยมีพฤติกรรมดังว่า ผม
ใช้เงินส่วนตัวในการทำกิจกรรมมาตลอด และที่อีสานผมยังไม่ได้รับเงินที่สำรองจ่ายคืนจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ ได้โปรดอย่าให้ผมพูดมากไปกว่านี้เลย
ในการทำกิจกรรมที่ภาคเหนือของเส้นทางสีแดง มีเรื่องที่เป็นข่าวใหญ่โตทั่วประเทศจากกรณีที่พวกเราไปขึ้นเวทีคนไทยหัวใจรักชาติ สาเหตุก็คือว่าวันนั้นเป็นวันแรกที่ขบวนแรลลี่เส้นทางสีแดงออกเดินทางจากราชประสงค์จะไปเยี่ยมเยียนพี่น้องที่ภาคเหนือ พวกเราเคลื่อนขบวนออกจากราชประสงค์ในเวลาเที่ยงวันและต้องไปที่อนุเสาวรีย์พระเจ้าตากที่วงเวียนใหญ่ในเวลาบ่ายโมงซึ่งมีสื่อมวลชนรอทำข่าว พวกเราแรลลี่ผ่านถนนพิษณุโลกและพบว่ากลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติได้ปิดถนนและตั้งเวทีปราศัย การปิดถนนดังกล่าวทำให้พวกเราไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ ผมได้เจรจากับการ์ดเพื่อขอเปิดทาง การ์ดได้ตามคุณไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ซึ่งมาพร้อมกับนักข่าวนับสิบๆคน เมื่อมาถึงคุณไชยวัฒน์ได้ยกมือไหว้ทักทายพวกเราและขอจับมือพวกเราเพื่อแสดงไมตรี นักข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์จึงถ่ายภาพเหล่านั้นไว้เพราะเป็นภาพที่หาไม่ง่ายนัก เมื่อทราบจุดประสงค์ของเราคุณไชยวัฒน์ได้เชื้อเชิญให้พวกเราส่งตัวแทนขึ้นไปกล่าวคำทักทายพี่น้องคนไทยด้วยกัน มวลชนในวันนั้นไม่ใช่คนเสื้อเหลือง อย่างน้อยพวกเราแต่งกายแบบชาวบ้านและส่วนใหญ่เป็นชาวชนบทที่มาจากภาคอีสานน ผมเห็นว่าถึงแม้จะต่างอุดมการณ์กันแต่การที่คนเสื้อแดงและคนเสื้อเหลืองพบกันไม่จำเป็นต้องด่าทอกันเหมือนคนไร้การศึกษา สำหรับผมขณะนั้นไม่เห็นว่าเป็นเรื่องเสียหาย ผมจึงได้ไปขึ้นเวทีพร้อมกับสมาชิกอีก 4-5 คน และกล่าวคำทักทายบนเวทีสั้นๆ และพวกเราพูดเฉพาะเรื่องของพวกเราโดยเน้นไปที่การแนะนำตัว ภารกิจและเป้าหมายของกิจกรรม และผมเป็นผู้ที่กล่าวปิดท้ายโดยสรุปว่า "กลุ่มเส้นทางสีแดงเป็นกลุ่มที่ไม่มีพรรคการเมืองใดอยู่เบื้องหลัง และเราดำเนินกิจกรรมในภาคประชาชน ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครสั่งให้เราทำซ้ายทำขวา เราทำทุกอย่างเพื่อสันติสุขของคนไทยและแผ่นดินไทย http://www.youtube.com/watch?v=dnQgWxtYtJs " และ http://www.youtube.com/watch?v=dnQgWxtYtJs
หลังจากนั้นเราได้รีบออกมาจากบริเวณและมุ่งหน้าไปที่วงเวียนใหญ่เพื่อทำกิจกรรมตามกำหนด แต่ปรากฏว่าการขึ้นเวทีครั้งนั้นเป็นข่าวใหญ่โตทั้งๆที่เราเป็นกลุ่มที่ทำกิจกรรมกลุ่มเล็กๆ และเนื่องจากการทำกิจกรรมของเราส่วนใหญ่จะใช้เวลาอยู่บนท้องถนนในการปั่นจักรยาน และออกเยี่ยมเยียนชาวบ้านจนค่ำมืดดึกดื่น จึงทำให้ได้รับข่าวสารน้อยมาก ในขณะที่กลุ่มที่คอยปล่อยข่าวลือได้โหมกระหน่ำปล่อยข่าวลือสารพัด มีทั้งการปล่อยข่าวว่าพวกเราเป็นแดงเทียมบ้าง เป็นเหลืองบ้าง รับงานรับเงินเนวินมาขึ้นเวทีเหลืองเพื่อดึงมวลชนบ้าง บ้าๆบอๆไร้สาระ บางคนไปไกลขนาดอัดคลิปด่าผมส่งเผยแพร่ทางอินเทอร์เนท แต่ปรากฏว่าเรื่องไร้สาระกลับได้รับความสนใจ และการที่ผมไม่ให้ความสนใจกับการชี้แจงเรื่องเหลวไหลทำให้ข่าวลือดังกล่าวแพร่ไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ผมได้ชี้แจงและอธิบายกับมวลชนเท่าที่จะทำได้ ทั้งการชี้แจงในทุกที่ทุกจังหวัดที่เราผ่านไป ทั้งการเขียนบทความส่งไทยอีนิวส์ http://thaienews.blogspot.com/2011/01/blog-post_22.html รวมถึงการทำคลิปเพื่อขอโทษมวลชนที่อาจเข้าใจผิดในอุดมการณ์ของพวกเรา http://www.youtube.com/watch?v=Bc0BjyargYc
ผมจึงขอเรียนตรงนี้อีกครั้งว่าผมไม่เคยเป็นคนเสื้อเหลือง และไม่เคยคิดจะเป็นคนเสื้อเหลือง เพราะไม่ชอบนิสัยของคนเสื้อเหลืองและอุดมการณ์คลั่งชาติ และผมคิดว่าในชีวิตนี้ไม่สามารถเป็นอย่างอื่นได้นอกจากเป็นคนเสื้อแดงและนักสู้เสื้อแดง นักสู้เสื้อแดงสำหรับผมคือใครก็ตามที่อุทิศตนเพื่อนำความถูกต้อง ความยุติธรรม และนำประชาธิปไตยกลับสู่ประเทศนี้ และจำต้องต่อสู้ปกป้องรักษาประชาธิปไตยให้พ้นจากเผด็จการ นักสู้เสื้อแดงเป็นได้ทั้งนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีอุดมการณ์ เป็นได้ทั้งคนปั่นจักรยานทางไกลเพื่อปลุกใจให้ชนบทของไทยลุกขึ้นมาสู้ นักสู้เสื้อแดงเป็นได้ทั้งคนที่อยู่เบื้องหลังคอยเผยแพร่ข่าวสารที่เป็นจริงและเป็นประโยชน์ต่อประชาธิปไตย
หากมีเวลาผมจะกลับมาเขียนบันทึกนี้เพิ่มเติมเพื่อเป็นหลักฐานในการทำกิจกรรมที่สมบูรณ์ของกลุ่มเส้นทางสีแดง เพื่อที่ว่าวันใดวันหนึ่งหากเกิดอะไรขึ้นกับผม ลูกหลานของผมจะได้รู้ว่าพ่อของเขาเคยอุทิศตนเพื่อคนเสื้อแดงและประชาธิปไตยของประเทศนี้ และสิ่งที่พ่อของเขามอบให้กับเขาคือความหวังที่จะได้เห็นอนาคตที่ดีกว่าสำหรับคนรุ่นหลัง และสำหรับวันนี้เป็นวันเกิดลูกชายคนเล็กของผม บันทึกนี้จะเป็นของขวัญที่เขาจะได้อ่านในอนาคต
ราตรีสวัสดิ์
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คลิปกิจกรรมที่น่าสนใจ :
http://www.youtube.com/watch?v=iTNcfumdNSY เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบที่บ้านโป่ง ราชบุรี 17 มค. 54
http://www.youtube.com/watch?v=enM70BWwm-g เยี่ยวยาผู้ได้รับผลกระทบที่กาญจนบุรี บ้านพล.โท มะ โพธิ์งาม 19 มค.54
http://www.youtube.com/watch?v=enM70BWwm-g เยียวยาผู้สูญเสีย กาญจนบุรี 20 มค. 54
http://www.youtube.com/watch?v=P1pGtxXhMZc ไหว้อัฐิวีรชน ชััยนาท 23 มค.54
http://www.youtube.com/watch?v=HcPL5aiHpgA เยี่ยมและมอบเงินบริจาค นักโทษเสื้อแดง เชียงใหม่ 8 กพ. 54 (1)
http://www.youtube.com/watch?v=nOrhQduQuY4&feature=related เยี่ยมและมอบเงินบริจาคนักโทษเสื้อแดง เชียงใหม่ 8 กพ.54 (2)
http://www.youtube.com/watch?v=odRaRrPeC9c มอบเงินบริจาคเพื่อเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต จ.เชียงราย 10 กพ. 54
http://www.youtube.com/watch?v=Z2GCmg7BkCs มอบเงินเยียวยาผู้พิการ จันทบุรี 13 พค.54
http://www.youtube.com/watch?v=pWo8JSRM2qY ความฝันของดญ.ปลายฟ้า อ.ชุมแพ ขอนแก่น 18 พค. 54
http://www.youtube.com/watch?v=kZH5XmbJ8fY จดหมายขอทุนการศึกษาดญ.ปลายฟ้า อ.ชุมแพ ขอนแก่น 18 พค.54
http://www.youtube.com/watch?v=RSVx9XJJkmo เยียวยาชายตาบอด อุดร 21 พค.54 (1)
http://www.youtube.com/watch?v=RSVx9XJJkmo เยียวยาชายตาบอด อุดร 21 พค.54 (2)
http://www.youtube.com/watch?v=39oVIHMOcZs เยี่ยมและเยียวยาเด็กกำพร้า อ.ปากคาด หนองขาย 22 พค. 54
http://www.youtube.com/watch?v=Sk4L6uvqOcI เยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิต หนองบัวลำภู 24 พค.54
http://www.youtube.com/watch?v=BBLw6THCXUQ เยี่ยมผู้ต้องขัง เรือนจำเชียงใหม่ 22 มิย. 54 (1)
http://www.youtube.com/watch?v=kdDBZL7Ao00 เยี่ยมผู้ต้องขัง เรือนจำเชียงใหม่ 22 มิย. 54 (2)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น