วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554

บันทึกเส้นทางสีแดงต้านรัฐประหาร (3)

8 September 2011 at 00:32
วันที่ 15 ของกิจกรรม (22 พค.2554)
.

พวกเราออกเดินทางจากวัดหายโศกตั้งแต่เวลา 7.00 น. เพื่อเดินทางข้ามไปเวียงจันทร์เพื่อไปให้พี่น้องคนไทยเสื้อแดงที่อยู่ฝั่งลาว ระยะทางจากวัดหายโศกไปสะพานมิตรภาพไทย-ลาวไม่กี่กม. พวกเราใช้หลักฐานเพียงแค่บัตรประชาชนเพื่อทำใบผ่านแดนชั่วคราวที่ด่าน ค่าธรรมเนียมประมาณ 200 บาท พวกเราปั่นจักรยานข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาวในเวลาประมาณ 9.00 น. โดยหลังจากลงสะพานข้ามแม่น้ำโขงแล้ว พวกเราต้องขี่รถชิดเลนขวาเนื่องจากที่นี่ขับรถพวงมาลัยขวาแบบเดียวกับที่ฝรั่งเศส พวกเราได้ถ่ายคลิปการเดินทางมากเท่าที่จะทำได้
.
http://www.youtube.com/watch?v=l9vOSCYmIzc (เตรียมข้ามแดนที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว)
http://www.youtube.com/watch?v=eHiFV9kOyAs (ขณะปั่นจักรยานเข้าเขตประเทศสปป.ลาว)
http://www.youtube.com/watch?v=0LeyB5vuOZY&feature=related (บรรยากาศใจกลางเมืองเวียงจันทร์)
http://www.youtube.com/watch?v=1uudLHDBZEY&feature=related (บริเวณถนนหน้าประตูชัย)
http://www.youtube.com/watch?v=rLpYY_eKN2Q&feature=related (ณ.สาธารณะของประตูชัย)
http://www.youtube.com/watch?v=Ks2acZfAwfw&feature=related (สนทนากับคนไทยที่ประตูชัย)
.
ระยะทางจากพรมแดนไทยถึงนครเวียงจันทร์ประมาณ 25 กม. ตัวเมืองเวียงจันทร์คงจะคล้ายกับกรุงเทพเมื่อ 40-50 ปีก่อน รถรามีไม่มากนัก ตึกสูงมีไม่มาก มีแต่สถานที่ราชการ สถานทูต และศูนย์การค้าเล็กๆ ค่าอาหารและเครื่องดื่มในเวียงจันทร์มีราคาแพงเนื่องจากทุกอย่างต้องนำเข้าจากฝั่งไทย พวกเราพบคนไทยหลายคนที่บริเวณประตูชัย คนลาวหลายคนแสดงท่าทียิ้มแย้มเป็นมิตรเมื่อเห็นพวกเราใส่เสื้อแดงปั่นจักรยานปักธงชาติไทยในประเทศของเขา พวกเราใช้เวลาประมาณ 3 ชม.ในประเทศลาว ขากลับพวกเราได้รับเงินบริจาคจากพี่น้องที่ทำงานในฝั่งลาวที่เห็นพวกเราปั่นจักรยานพร้อมกับมีตู้บริจาคเขียนคำว่า "เยียายาผู้ได้รับผลกระทบ"
.
พวกเราข้ามมาฝั่งไทยเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.ระยะทางจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาวไปอ.ปากคาด จ.หนองคายประมาณ 90 กม.ทำให้พวกเราไม่มีทางเลือกต้องนำจักรยานขึ้นรถบขส.และเดินทางต่อไปอ.ปากคาดเพื่อให้ทันเยี่ยมครอบครัวเด็กกำพร้า
.
พวกเราพบกับแกนนำคนเสื้อแดงอ.ปากคาดชื่อคุณณัฐวุฒิในเวลาประมาณ 16.30 น.และนำพวกเราเดินทางมาที่บ้านของเด้กกำพร้าในเวลาเย็น มีชาวบ้านที่ทราบข่าวมารอรับที่หน้าบ้านของครอบครัวนี้นับร้อยคน
.
หลังจากที่พวกเราได้กล่าวคำทักทายชาวบ้านที่มารอต้อนรับ ชาวบ้านต่างดีใจที่มีคนเสื้อแดงจากกรุงเทพปั่นจักรยานนับพันกิโลเพื่อมาเยี่ยมเยียนพวกเขา พวกเราได้สนทนากับครอบครัวของผู้สูญเสียและสอบถามความเป็นอยู่และสภาพจิตใจของเด็กทั้งสาม หลังจากนั้นได้มอบเงินบริจาคจำนวน 2,000 บาทและถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึก พร้อมทั้งถ่ายคลิปวีดีโอการเยี่ยมเยียนมาเผยแพร่
http://www.youtube.com/watch?v=39oVIHMOcZs (คลิปสัมภาษณ์ครอบครัวเด็กกำพร้าโดยละเอียด)
.
หมายเหตุ : ครอบครัวนี้สูญเสียหัวหน้าครอบครัวเนื่องจากถูกยิงที่หน้าอกในวันที่ 10 เมย. ครอบครัวนี้ประกอบด้วยภรรยาและลูกทั้งสาม ลูกชายคนโต 11 ขวบ ลูกสาวคนรอง 6 ขวบ และลูกชายคนเล็ก 4 ขวบ เด็กๆทั้งสามได้รับผลกระทบทางจิตใจจากการสูญเสียผู้เป็นพ่อโดยเฉพาะลูกสาวและลูกชายคนเล็ก ตั้งแต่ที่คุณพ่อจากไป ลูกสาวกลายเป็นเด็กที่เงียบขรึม กลัวคนแปลกหน้าและมีแววตาที่เศร้าสร้อย ส่วนลูกชายคนเล็กอายุ 4 ขวบน่าสะเทือนใจที่สุด เด็กคนนี้ยังเล็กเกินกว่าที่จะเข้าใจว่าพ่อจากไปแล้ว เด็กคนนี้สร้างโลกของตนเองด้วยการจินตนาการว่าพ่อของเขายังมีชีวิตอยู่ โดยหนูน้อยมักจะบอกกับคนรอบข้างว่าพ่อได้พาเขาไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ พ่อได้ซื้อขนม ซื้อของเล่นให้เขาเสมอๆ ผมฟังเรื่องเหล่านี้ด้วยความเศร้าและเห็นใจอย่างที่สุด ในฐานะหัวอกของคนเป็นพ่อของลูก 3 คนเช่นกัน ผมได้ขอให้คุณแม่ของเด็กทั้งสามเขียนจดหมายถึงคุณยิ่งลักษณ์ในฐานะประธานมูลนิธิไทยคมเพื่อขอทุนการศึกษาให้กับเด็กๆทั้งสาม ซึ่งผมรับปากว่าจะนำไปมอบให้ที่มูลนิธิไทยคมทันทีที่ผมกลับถึงกรุงเทพ
.
ที่อยู่ของครอบครัวนี้สำหรับผู้ต้องการความช่วยเหลือ :
นางแดง จันทร์หา 111 ม.7 ต.นาดง อ.ปากคาด จ.หนองคาย รหัสไปรษณีย์43190 โทร 082-123 6012
.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น