8. 4 พย.2553 ถูกลอบยิงที่ลำตะคอง
ก่อนออกเดินทาง 5 วันผมทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อขอให้ตำรวจดูแลความปลอดภัยในการทำกิจกรรม จุดประสงค์คือต้องการให้กิจกรรมนี้อยู่ในสายตาของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เนื่องจากสถานการณ์ในขณะนั้นไม่น่าไว้วางใจ การลอบสังหารคนเสื้อแดงมีอยู่เป็นระยะ และขณะนั้นทหารมีอำนาจคับฟ้าตามที่พ.ร.ก.ฉุกเฉินให้อำนาจไว้ หนังสือดังกล่าวผมไปส่งด้วยตนเองพร้อมกับลงเลขรับไว้เป็นหลักฐาน
กิจกรรมนี้ได้รับความสนใจจากคนเสื้อแดงค่อนข้างมาก เวปไซด์หลายแห่งประชาสัมพันธ์พาดหัวด้วยข้อความว่า เส้นทางสีแดงเดินทัพทางไกล 1,700 กม.ตามหาความยุติธรรม หนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์ฉบับต้นเดือนพฤศจิกายน 2553 นำกิจกรรมนี้ไปลงโดยละเอียด โดยได้ระบุว่าเป้าหมายของกิจกรรมนี้ก็เพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวแกนนำนปช.และผู้ต้องขังเสื้อแดงทั่วประเทศ เพื่อให้สังคมตระหนักถึงปัญหา 2 มาตรฐานกระบวนการยุติธรรมในเมืองไทย และเพื่อให้นานาชาติตระหนักถึงปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนในเมืองไทย ข้อมูลที่มติชนนำมาลงคงจะได้มาจากเมล์ที่ผมส่งให้กับเพื่อนเสื้อแดงในโลกไซเบอร์
วันที่ออกขบวนคือวันที่ 31 ตค.2553 บรรยากาศที่ราชประสงค์เต็มไปด้วยความคึกคักและมีชีวิตชีวา คนเสื้อแดงไปร่วมส่งขบวนนี้หลายร้อยคน พวกเราร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนาน ขวัญและกำลังใจดีเยี่ยม จุดเด่นของงานอยู่ที่การนำขบวนปั่นจักรยานโดยคุณสมบัติ บุญงามอนงค์ซึ่งปั่นจักรยานไปส่งพวกเราถึงเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ที่นั่นมีคนเสื้อแดงรออยุ่เป็นจำนวนมาก ทุกคนตะโกนคำสามคำที่ดังติดหูอยุ่ทุกวันนี้ ... "ปล่อยแกนนำ ปล่อยแกนนำ"
กลุ่มเส้นทางสีแดง และกลุ่มสองขาเพื่อประชาธิปไตยเป็นกลุ่มหลักที่รับหน้าที่ปั่นจักรยานตลอดระยะทาง 1,700 กม. ส่วนกลุ่มวันอาทิตย์สีแดงและคุณสมบัติ บุญงามอนงค์จะไปสมทบกับกิจกรรมในวันเสาร์-อาทิตย์ เช่นเดียวกับตัวแทนจากมูลนิธิวีรชนเพื่อประชาธิปไตยที่นำผ้าห่มไปแจกในวันเสาร์-อาทิตย์เช่นกัน สื่อมวลชนที่ติดตามข่าวตลอดได้แก่ Voice TV และ People Channel
ในวันแรกที่ออกขบวนเดินทาง Voice TV นำเสนอข่าวได้อย่างน่าประทับใจ พวกเราผ่านจังหวัดปทุมธานี อยุธยา สระบุรี ตลอด 3 วันแรกเป็นการระดมเงินบริจาคที่ได้รับแต่ละจังหวัด ที่ตลาดรังสิตตำรวจที่มาอำนวยความสะดวกถึงกับพาเดินเข้าไปในตลาดเพื่อรับเงินบริจาคจากแม่ค้าเสื้อแดง
คุณแป๊ะมาสมทบกับกิจกรรมในวันที่ 4 ของกิจกรรม ในวันนั้นพวกเราเดินทางไปพักที่วัดป่าสีวลี อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ที่นี่ผมได้แจ้งให้ Voice TV ไปทำข่าวการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบรายแรก ซึ่งเป็นชาวลำปางที่อยู่ในเหตุการณ์ที่ผ่านฟ้าวันที่ 10 เมย.2553 เขาบอกกับผู้สื่อข่าวว่ายังไม่สามารถกลับบ้านได้เนื่องจากทหารตามไปถึงบ้าน
เช้าวันที่ 4 พย.พวกเราออกเดินทางมุ่งหน้าจ.นครราชสีมา ในขณะที่ผ่านลำตะคองพวกเราก็ถูกลอบยิงโดยตำรวจนอกเครื่องแบบ (ทราบชื่อภายหลังคือ พ.ต.ท.ฐาปนฤทธิ์ อุทัยวงศ์ สังกัดกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์) ในขณะที่เกิดเหตุผมขี่จักรยานอยู่คันที่ 4 หรือ 5 ด้านหน้าเป็นนักปั่นที่เป็นทหารทั้งนั้น สิบเอกฉลาด สงเคราะห์สุขที่ปั่นเป็นคันแรกคงจะเห็นพิรุธจากคนร้ายที่ซุ่มอยู่ข้างทางจึงตะโกนให้นักปั่นที่ขับตามมาช่วยกันจับกุมไว้ โชคไม่ดีเป็นของคนร้ายที่คนที่เข้าจับกุมล้วนเป็นทหารทั้งสิิ้น หนึ่งในนั้นคือรอ.พิสิทธิ์ พิพุฒ (ผู้กองเต่า) สมาชิกรุ่นก่อตั้งของกลุ่มสองขาเพื่อประชาธิปไตย
คนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองบรรจุกระสุนลูกปรายเบอร์ 12 จำนวน 4 นัด ในขณะที่จับกุมได้มีการต่อสู้แย่งอาวุธปืนและมีเสียงปืนดัง 1 นัด หลังจากที่ถูกจับกุมมีชาวบ้านมามุงดูเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านที่เป็นคนเสื้อแดงหลายคนมีความรู้สึกโกธรแค้นกรูเข้าไปจะทำร้าย ผมและสมาชิกอีกหลายคนได้ช่วยกันห้ามปราม เมื่อถูกจับกุมคนร้ายร้องหาโทรศัพท์มือถือ และพูดจาวกวนเพื่อแสดงให้เห็นว่ามีอาการสติไม่ดี เช่นเมื่อถูกถามว่าทำไมต้องพกปืน คนร้ายตอบว่าผมถูกปองร้าย
ขอบันทึกไว้เป็นหลักฐานณ.ที่นี้ว่าก่อนหน้าจะเข้าเขตสภ.หนองสาหร่ายจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสระบุรีขี่รถนำขบวนเพื่ออำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยตามที่ผมทำหนังสือไป แต่หลังจากที่เข้าเขตสภ.หนองสาหร่ายแล้วไม่ปรากฏว่ามีรถตำรวจมารับช่วงต่อ ไม่นานก็เกิดเหตุการณ์ลอบยิง ผมไม่ทราบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และไม่อยากจะคาดเดา
หลังเกิดเหตุไม่นาน ตำรวจแทบจะแห่กันมาทั้งโรงพัก สำหรับผมมันเป็นเรื่องตลกที่น่าสมเพช คนเสื้อแดงกลุ่มเล็กๆที่กล้าลุกมาต่อสู้กับเผด็จการทหารอย่างสันติด้วยการปั่นจักรยานให้กำลังใจชาวบ้าน (และได้ทำหนังสือแจ้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก่อนออกเดินทาง) กลับถูกคนร้ายซึ่งมียศเป็นถึงสารวัตรลอบยิง และอาวุธที่ใช้ก็เป็นอาวุธร้ายแรงบรรจุกระสุนลูกปรายเบอร์ 12 ถึง 4 นัด คนร้ายคงจะตั้งใจยิงทั้งขบวน
ผมเคยตั้งคำถามกับคุณสมบัติว่าทำไมคนร้ายจึงต้องใช้ปืนลูกซองแทนที่จะใช้ปืนสั้นซึ่งสะดวกต่อการพกพา คำตอบที่ได้รับคือคนร้ายน่าจะเจตนาใช้ปืนลูกซองซึ่งเป็นปืนที่ชาวบ้านใช้กันทั่วไป หากลงมือสำเร็จสื่อมวลชนอาจจะลงข่าวทำนองว่าคนอีสานเกลีดชังคนเสื้อแดงและต้อนรับด้วยกระสุนปืน และเมื่อมีการเลือกตั้งครั้งต่อไปก็จะมีพรรคการเมืองที่ปั่นกระแสนี้เพื่อทำลายความนิยมของพรรคเพื่อไทยที่สนับสนุนคนเสื้อแดง ดังนัั้น พรรคการเมืองไหนจะได้ประโยชน์และนักการเมืองคนใดอยู่เบื้องหลังคำสั่งลอบยิงนี้คงไม่ยากเกินกว่าจะคาดเดา
คลิปคลื่อนขบวนราชประสงค์ Voice TV http://www.youtube.com/watch?v=yDsSvPk36Ic
คลิปกิจกรรมสระบุรี http://www.youtube.com/watch?v=gX7EGe5EbaI
คลิปสัมภาษณ์ผู้ได้รับผลกระทบที่วัดป่าสีวลี http://www.youtube.com/watch?v=KAQv-OK-INk&feature=related
ก่อนออกเดินทาง 5 วันผมทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อขอให้ตำรวจดูแลความปลอดภัยในการทำกิจกรรม จุดประสงค์คือต้องการให้กิจกรรมนี้อยู่ในสายตาของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เนื่องจากสถานการณ์ในขณะนั้นไม่น่าไว้วางใจ การลอบสังหารคนเสื้อแดงมีอยู่เป็นระยะ และขณะนั้นทหารมีอำนาจคับฟ้าตามที่พ.ร.ก.ฉุกเฉินให้อำนาจไว้ หนังสือดังกล่าวผมไปส่งด้วยตนเองพร้อมกับลงเลขรับไว้เป็นหลักฐาน
กิจกรรมนี้ได้รับความสนใจจากคนเสื้อแดงค่อนข้างมาก เวปไซด์หลายแห่งประชาสัมพันธ์พาดหัวด้วยข้อความว่า เส้นทางสีแดงเดินทัพทางไกล 1,700 กม.ตามหาความยุติธรรม หนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์ฉบับต้นเดือนพฤศจิกายน 2553 นำกิจกรรมนี้ไปลงโดยละเอียด โดยได้ระบุว่าเป้าหมายของกิจกรรมนี้ก็เพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวแกนนำนปช.และผู้ต้องขังเสื้อแดงทั่วประเทศ เพื่อให้สังคมตระหนักถึงปัญหา 2 มาตรฐานกระบวนการยุติธรรมในเมืองไทย และเพื่อให้นานาชาติตระหนักถึงปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนในเมืองไทย ข้อมูลที่มติชนนำมาลงคงจะได้มาจากเมล์ที่ผมส่งให้กับเพื่อนเสื้อแดงในโลกไซเบอร์
วันที่ออกขบวนคือวันที่ 31 ตค.2553 บรรยากาศที่ราชประสงค์เต็มไปด้วยความคึกคักและมีชีวิตชีวา คนเสื้อแดงไปร่วมส่งขบวนนี้หลายร้อยคน พวกเราร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนาน ขวัญและกำลังใจดีเยี่ยม จุดเด่นของงานอยู่ที่การนำขบวนปั่นจักรยานโดยคุณสมบัติ บุญงามอนงค์ซึ่งปั่นจักรยานไปส่งพวกเราถึงเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ที่นั่นมีคนเสื้อแดงรออยุ่เป็นจำนวนมาก ทุกคนตะโกนคำสามคำที่ดังติดหูอยุ่ทุกวันนี้ ... "ปล่อยแกนนำ ปล่อยแกนนำ"
กลุ่มเส้นทางสีแดง และกลุ่มสองขาเพื่อประชาธิปไตยเป็นกลุ่มหลักที่รับหน้าที่ปั่นจักรยานตลอดระยะทาง 1,700 กม. ส่วนกลุ่มวันอาทิตย์สีแดงและคุณสมบัติ บุญงามอนงค์จะไปสมทบกับกิจกรรมในวันเสาร์-อาทิตย์ เช่นเดียวกับตัวแทนจากมูลนิธิวีรชนเพื่อประชาธิปไตยที่นำผ้าห่มไปแจกในวันเสาร์-อาทิตย์เช่นกัน สื่อมวลชนที่ติดตามข่าวตลอดได้แก่ Voice TV และ People Channel
ในวันแรกที่ออกขบวนเดินทาง Voice TV นำเสนอข่าวได้อย่างน่าประทับใจ พวกเราผ่านจังหวัดปทุมธานี อยุธยา สระบุรี ตลอด 3 วันแรกเป็นการระดมเงินบริจาคที่ได้รับแต่ละจังหวัด ที่ตลาดรังสิตตำรวจที่มาอำนวยความสะดวกถึงกับพาเดินเข้าไปในตลาดเพื่อรับเงินบริจาคจากแม่ค้าเสื้อแดง
คุณแป๊ะมาสมทบกับกิจกรรมในวันที่ 4 ของกิจกรรม ในวันนั้นพวกเราเดินทางไปพักที่วัดป่าสีวลี อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ที่นี่ผมได้แจ้งให้ Voice TV ไปทำข่าวการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบรายแรก ซึ่งเป็นชาวลำปางที่อยู่ในเหตุการณ์ที่ผ่านฟ้าวันที่ 10 เมย.2553 เขาบอกกับผู้สื่อข่าวว่ายังไม่สามารถกลับบ้านได้เนื่องจากทหารตามไปถึงบ้าน
เช้าวันที่ 4 พย.พวกเราออกเดินทางมุ่งหน้าจ.นครราชสีมา ในขณะที่ผ่านลำตะคองพวกเราก็ถูกลอบยิงโดยตำรวจนอกเครื่องแบบ (ทราบชื่อภายหลังคือ พ.ต.ท.ฐาปนฤทธิ์ อุทัยวงศ์ สังกัดกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์) ในขณะที่เกิดเหตุผมขี่จักรยานอยู่คันที่ 4 หรือ 5 ด้านหน้าเป็นนักปั่นที่เป็นทหารทั้งนั้น สิบเอกฉลาด สงเคราะห์สุขที่ปั่นเป็นคันแรกคงจะเห็นพิรุธจากคนร้ายที่ซุ่มอยู่ข้างทางจึงตะโกนให้นักปั่นที่ขับตามมาช่วยกันจับกุมไว้ โชคไม่ดีเป็นของคนร้ายที่คนที่เข้าจับกุมล้วนเป็นทหารทั้งสิิ้น หนึ่งในนั้นคือรอ.พิสิทธิ์ พิพุฒ (ผู้กองเต่า) สมาชิกรุ่นก่อตั้งของกลุ่มสองขาเพื่อประชาธิปไตย
คนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองบรรจุกระสุนลูกปรายเบอร์ 12 จำนวน 4 นัด ในขณะที่จับกุมได้มีการต่อสู้แย่งอาวุธปืนและมีเสียงปืนดัง 1 นัด หลังจากที่ถูกจับกุมมีชาวบ้านมามุงดูเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านที่เป็นคนเสื้อแดงหลายคนมีความรู้สึกโกธรแค้นกรูเข้าไปจะทำร้าย ผมและสมาชิกอีกหลายคนได้ช่วยกันห้ามปราม เมื่อถูกจับกุมคนร้ายร้องหาโทรศัพท์มือถือ และพูดจาวกวนเพื่อแสดงให้เห็นว่ามีอาการสติไม่ดี เช่นเมื่อถูกถามว่าทำไมต้องพกปืน คนร้ายตอบว่าผมถูกปองร้าย
ขอบันทึกไว้เป็นหลักฐานณ.ที่นี้ว่าก่อนหน้าจะเข้าเขตสภ.หนองสาหร่ายจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสระบุรีขี่รถนำขบวนเพื่ออำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยตามที่ผมทำหนังสือไป แต่หลังจากที่เข้าเขตสภ.หนองสาหร่ายแล้วไม่ปรากฏว่ามีรถตำรวจมารับช่วงต่อ ไม่นานก็เกิดเหตุการณ์ลอบยิง ผมไม่ทราบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และไม่อยากจะคาดเดา
หลังเกิดเหตุไม่นาน ตำรวจแทบจะแห่กันมาทั้งโรงพัก สำหรับผมมันเป็นเรื่องตลกที่น่าสมเพช คนเสื้อแดงกลุ่มเล็กๆที่กล้าลุกมาต่อสู้กับเผด็จการทหารอย่างสันติด้วยการปั่นจักรยานให้กำลังใจชาวบ้าน (และได้ทำหนังสือแจ้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก่อนออกเดินทาง) กลับถูกคนร้ายซึ่งมียศเป็นถึงสารวัตรลอบยิง และอาวุธที่ใช้ก็เป็นอาวุธร้ายแรงบรรจุกระสุนลูกปรายเบอร์ 12 ถึง 4 นัด คนร้ายคงจะตั้งใจยิงทั้งขบวน
ผมเคยตั้งคำถามกับคุณสมบัติว่าทำไมคนร้ายจึงต้องใช้ปืนลูกซองแทนที่จะใช้ปืนสั้นซึ่งสะดวกต่อการพกพา คำตอบที่ได้รับคือคนร้ายน่าจะเจตนาใช้ปืนลูกซองซึ่งเป็นปืนที่ชาวบ้านใช้กันทั่วไป หากลงมือสำเร็จสื่อมวลชนอาจจะลงข่าวทำนองว่าคนอีสานเกลีดชังคนเสื้อแดงและต้อนรับด้วยกระสุนปืน และเมื่อมีการเลือกตั้งครั้งต่อไปก็จะมีพรรคการเมืองที่ปั่นกระแสนี้เพื่อทำลายความนิยมของพรรคเพื่อไทยที่สนับสนุนคนเสื้อแดง ดังนัั้น พรรคการเมืองไหนจะได้ประโยชน์และนักการเมืองคนใดอยู่เบื้องหลังคำสั่งลอบยิงนี้คงไม่ยากเกินกว่าจะคาดเดา
คลิปคลื่อนขบวนราชประสงค์ Voice TV http://www.youtube.com/watch?v=yDsSvPk36Ic
คลิปกิจกรรมสระบุรี http://www.youtube.com/watch?v=gX7EGe5EbaI
คลิปสัมภาษณ์ผู้ได้รับผลกระทบที่วัดป่าสีวลี http://www.youtube.com/watch?v=KAQv-OK-INk&feature=related
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น