19. เส้นทางสีแดงกับมหาอุทกภัยปี 2555
หลังจากเสร็จสิ้นการทำกิจกรรมเส้นทางสีแดงต้านรัฐประหาร ผมกลับถึงกรุงเทพด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้น ทั้งนี้เพราะระยะทางเกือบสี่พันกิโลในการเดินทางทั่วประเทศผมได้เขียนบันทึก ส่งภาพและถ่ายคลิปกิจกรรมส่งให้เวปไทยอีนิวส์เผยแพร่ ทำให้สังคมเสื้อแดงโดยเฉพาะในไซเบอร์เข้าใจกิจกรรมเส้นทางสีแดงถ่องแท้มากขึ้น คลิปที่ผมคิดว่ามีประโยชน์มากที่สุดคือคลิปการสัมภาษณ์คุณเกียรติศักดิ์ มาอาสาจำนวน 2 คลิป ความยาว 46 นาที และคลิปสัมภาษณ์เด็กกำพร้าที่อ.ปากคาด จ.หนองคาย ความยาว 18 นาที
คลิปสัมภาษณ์ 1 http://www.youtube.com/watch?v=RSVx9XJJkmo
คลิปสัมภาษณ์ 2 http://www.youtube.com/watch?v=h7NZKFnEQhg&feature=relmfu
คลิปสัมภาษณ์ 3 http://www.youtube.com/watch?v=39oVIHMOcZs
ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง รัฐบาลอภิสิทธิ์ได้ทำสงครามกับรัฐบาลกัมพูชาเพื่อปลุกกระแสคลั่งชาติเพื่อหวังผลเพิ่มคะแนนนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ สงครามดังกล่าวมีผลทำให้สัมพันธ์ภาพระหว่างไทยและกัมพูชาหยุดชะงักชั่วคราว มีการปิดด่านค้าขายตามแนวชายแดน ทหารไทยต้องเสียชีวิตจากการสู้รบหลายนายโดยที่ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับประเทศชาติ หลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 กรกฏาคม 2554 พรรคเพื่อไทยได้ชัยชนะอย่างถล่มทลาย สส.ของพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกถึง 275 เสียงจากจำนวนสส.ทั้งหมด 500 เสียงทั่วประเทศ พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและประเทศไทยได้นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก คือนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
หลังจากนั้น ผมได้เตรียมกิจกรรมเส้นทางสีแดงเพื่อสันติภาพ (Red Path Project) ซึ่งเป็นกิจกรรมปั่นจักรยานทางไกล 3 ประเทศ เส้นทาง ราชประสงค์-เวียงจันทน์-พนมเปญ ระยะทาง 2,649 กม. ใช้ระยะเวลาทำกิจกรรม 35 วัน เป้าหมายคือการตระเวณเยี่ยมเยียนครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมโดยเน้นไปที่ครอบครัววรชนที่เสียชีวิต โครงการนี้จะเดินทางเข้าสู่กัมพูชาผ่านช่องสะงำ จ.ศรีษะเกษ และเข้ากัมพูชาทางเมืองเสียมเรียบ ผ่านเมืองศรีโสภณ พระตะบอง โพธิสัตว์ กัมปงชนัง และพนมเปญ ระยะทางที่ปั่นจักรยานในเมืองไทยคือ 2,000 กม. ในกัมพูชา 600 กม.
ไฮไลท์ของกิจกรรมนี้จะอยู่ในวันที่ 4 กพ.ที่กิจกรรมเส้นทางสีแดงได้เดินทางครบ 10,000 กม. คณะปั่นจักรยานเส้นทางสีแดงจะข้ามพรมแดนไทยเข้ากัมพูชาผ่านทางเขาพระวิหารซึ่งเป็นพื้นที่อ่อนไหวทางการเมืองของรัฐบาลที่แล้ว โดยผมตั้งใจว่าจะขอจับมือกับทหารกัมพูชาณ.จุดใดจุดหนึ่งของเขาพระวิหารเพื่อแสดงให้เห็นถึงมิตรภาพของคนไทยที่รักสันติเช่นคนเสื้อแดงกับทหารชาวกัมพูชา
ข้อมูลกิจกรรมจากไทยอีนิวส์ http://thaienews.blogspot.com/2011/12/blog-post_8368.html
โครงการนี้เดิมทีกำหนดจะเดินทางในเดือนพฤศจิกายน 2554 แต่เนื่องจากว่าในปีนั้นได้เกิดมหาอุทกภัยอย่างรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย น้ำได้ท่วมภาคกลางตั้งแต่เดือนกันยายนทำให้ผมต้องเลื่อนกิจกรรมนี้ออกไป และหันมาทำกิจกรรมช่วยเหลือน้ำท่วมตลอดเดือนพฤศจิกายน
เส้นทางสีแดงได้ทำกิจกรรมช่วยเหลือน้ำท่วม 5 ครั้งในเดือนนั้น กิจกรรมครั้งแรกคือการแรลลี่ในกรุงเทพเพื่อรวบรวมน้ำใจและสิ่งของบริจาคให้กับศปภ.(ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสพอุทกภัย) เมื่อวันที่ 23 ตค. ได้มอบเงินสดให้ศปภ.จำนวน 40,083.75 บาท และสิ่งของบริจาคมากมาย ครั้งที่ 2 และ 3 เป็นการไปแรลลี่ที่พัทยาเพื่อรวบรวมเงินและสิ่งของบริจาคให้กับมูลนิธิกระจกเงา (หรือศปภ.ภาคประชาชน) ที่คุณสมบัติได้ระดมอาสาสมัครช่วยเหลือน้ำท่วมอย่างหามรุ่งหามค่ำ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 พย.ได้เงินสดจำนวน 18,115 บาท ครั้งที่สองเมื่อ 13 พย. ได้เงินสดจำนวน 22,110 บาท รวมสองครั้งเป็นเงิน 39,225 บาท และสิ่งของบริจาคอีกจำนวนมาก ครั้งที่ 4 เป็นการแรลลี่ในจังหวัดสมุทรปราการ ได้เงินสดเกือบสองหมื่นบาท และได้นำไปซื้อข้าวสาร อาหารแห้ง และสิ่งของจำเป็นที่ต้องใช้ในการดำรงชีพนำขึ้นรถหกล้อไปมอบให้กับชาวบ้านต.ปากกราน จ.อยุธยา ผมคำนวณคร่าวๆว่าเงินและสิ่งของบริจาคที่มอบให้กับศปภ.ของรัฐและมูลนิธิกระจกเงา รวมถึงนำไปมอบให้กับชาวบ้านด้วยตนเองไม่น่าจะต่ำกว่า 200,000 บาท !
หมายเหตุ : ขอขอบคุณเพื่อนเสื้อแดงทุกท่านที่ได้ร่วมกิจกรรมนี้ทั้งในกรุงเทพ พัทยา สมุทรปราการ และอยุทธยา ขอบคุณ รอ.ปรีชา เอกฉัตร รอ.พิสิทธิ์ พิพุฒ เสธดำและเพื่อนๆ สารวัตรน้อยและสมาชิกบางคนของกลุ่มสองขาเพื่อประชาธิปไตย คุณวีนัสอดีตดารานางแบบเสื้อแดง คุณโตและคุณครีม พี่น้องเสื้อแดงที่พัทยาทุกกลุ่ม รวมถึงพี่น้องเสื้อแดงทุกท่านที่ได้ร่วมกิจกรรมนี้ ฯลฯ
หมาตเหตุ : กรุณาชมภาพและบันทึกของแต่ละกิจกรรมโดยละเอียดด้านล่างบันทึก
หลังจากเสร็จสิ้นการทำกิจกรรมเส้นทางสีแดงต้านรัฐประหาร ผมกลับถึงกรุงเทพด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้น ทั้งนี้เพราะระยะทางเกือบสี่พันกิโลในการเดินทางทั่วประเทศผมได้เขียนบันทึก ส่งภาพและถ่ายคลิปกิจกรรมส่งให้เวปไทยอีนิวส์เผยแพร่ ทำให้สังคมเสื้อแดงโดยเฉพาะในไซเบอร์เข้าใจกิจกรรมเส้นทางสีแดงถ่องแท้มากขึ้น คลิปที่ผมคิดว่ามีประโยชน์มากที่สุดคือคลิปการสัมภาษณ์คุณเกียรติศักดิ์ มาอาสาจำนวน 2 คลิป ความยาว 46 นาที และคลิปสัมภาษณ์เด็กกำพร้าที่อ.ปากคาด จ.หนองคาย ความยาว 18 นาที
คลิปสัมภาษณ์ 1 http://www.youtube.com/watch?v=RSVx9XJJkmo
คลิปสัมภาษณ์ 2 http://www.youtube.com/watch?v=h7NZKFnEQhg&feature=relmfu
คลิปสัมภาษณ์ 3 http://www.youtube.com/watch?v=39oVIHMOcZs
ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง รัฐบาลอภิสิทธิ์ได้ทำสงครามกับรัฐบาลกัมพูชาเพื่อปลุกกระแสคลั่งชาติเพื่อหวังผลเพิ่มคะแนนนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ สงครามดังกล่าวมีผลทำให้สัมพันธ์ภาพระหว่างไทยและกัมพูชาหยุดชะงักชั่วคราว มีการปิดด่านค้าขายตามแนวชายแดน ทหารไทยต้องเสียชีวิตจากการสู้รบหลายนายโดยที่ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับประเทศชาติ หลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 กรกฏาคม 2554 พรรคเพื่อไทยได้ชัยชนะอย่างถล่มทลาย สส.ของพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกถึง 275 เสียงจากจำนวนสส.ทั้งหมด 500 เสียงทั่วประเทศ พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและประเทศไทยได้นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก คือนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
หลังจากนั้น ผมได้เตรียมกิจกรรมเส้นทางสีแดงเพื่อสันติภาพ (Red Path Project) ซึ่งเป็นกิจกรรมปั่นจักรยานทางไกล 3 ประเทศ เส้นทาง ราชประสงค์-เวียงจันทน์-พนมเปญ ระยะทาง 2,649 กม. ใช้ระยะเวลาทำกิจกรรม 35 วัน เป้าหมายคือการตระเวณเยี่ยมเยียนครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมโดยเน้นไปที่ครอบครัววรชนที่เสียชีวิต โครงการนี้จะเดินทางเข้าสู่กัมพูชาผ่านช่องสะงำ จ.ศรีษะเกษ และเข้ากัมพูชาทางเมืองเสียมเรียบ ผ่านเมืองศรีโสภณ พระตะบอง โพธิสัตว์ กัมปงชนัง และพนมเปญ ระยะทางที่ปั่นจักรยานในเมืองไทยคือ 2,000 กม. ในกัมพูชา 600 กม.
ไฮไลท์ของกิจกรรมนี้จะอยู่ในวันที่ 4 กพ.ที่กิจกรรมเส้นทางสีแดงได้เดินทางครบ 10,000 กม. คณะปั่นจักรยานเส้นทางสีแดงจะข้ามพรมแดนไทยเข้ากัมพูชาผ่านทางเขาพระวิหารซึ่งเป็นพื้นที่อ่อนไหวทางการเมืองของรัฐบาลที่แล้ว โดยผมตั้งใจว่าจะขอจับมือกับทหารกัมพูชาณ.จุดใดจุดหนึ่งของเขาพระวิหารเพื่อแสดงให้เห็นถึงมิตรภาพของคนไทยที่รักสันติเช่นคนเสื้อแดงกับทหารชาวกัมพูชา
ข้อมูลกิจกรรมจากไทยอีนิวส์ http://thaienews.blogspot.com/2011/12/blog-post_8368.html
เส้นทางสีแดงได้ทำกิจกรรมช่วยเหลือน้ำท่วม 5 ครั้งในเดือนนั้น กิจกรรมครั้งแรกคือการแรลลี่ในกรุงเทพเพื่อรวบรวมน้ำใจและสิ่งของบริจาคให้กับศปภ.(ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสพอุทกภัย) เมื่อวันที่ 23 ตค. ได้มอบเงินสดให้ศปภ.จำนวน 40,083.75 บาท และสิ่งของบริจาคมากมาย ครั้งที่ 2 และ 3 เป็นการไปแรลลี่ที่พัทยาเพื่อรวบรวมเงินและสิ่งของบริจาคให้กับมูลนิธิกระจกเงา (หรือศปภ.ภาคประชาชน) ที่คุณสมบัติได้ระดมอาสาสมัครช่วยเหลือน้ำท่วมอย่างหามรุ่งหามค่ำ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 พย.ได้เงินสดจำนวน 18,115 บาท ครั้งที่สองเมื่อ 13 พย. ได้เงินสดจำนวน 22,110 บาท รวมสองครั้งเป็นเงิน 39,225 บาท และสิ่งของบริจาคอีกจำนวนมาก ครั้งที่ 4 เป็นการแรลลี่ในจังหวัดสมุทรปราการ ได้เงินสดเกือบสองหมื่นบาท และได้นำไปซื้อข้าวสาร อาหารแห้ง และสิ่งของจำเป็นที่ต้องใช้ในการดำรงชีพนำขึ้นรถหกล้อไปมอบให้กับชาวบ้านต.ปากกราน จ.อยุธยา ผมคำนวณคร่าวๆว่าเงินและสิ่งของบริจาคที่มอบให้กับศปภ.ของรัฐและมูลนิธิกระจกเงา รวมถึงนำไปมอบให้กับชาวบ้านด้วยตนเองไม่น่าจะต่ำกว่า 200,000 บาท !
หมาตเหตุ : กรุณาชมภาพและบันทึกของแต่ละกิจกรรมโดยละเอียดด้านล่างบันทึก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น