วันที่ 12 ของกิจกรรม (19 พค.2554) ต่อ
พวกเราออกเดินทางหลังจากที่หนูน้อยปลายฟ้าฝากจดหมายถึงคุณยิ่งลักษณ์เสร็จสิ้น ระยะทางจากชุมแพถึงขอนแก่น 125 กม. การปั่นจักรยานในช่วงเช้าเป็นไปอย่า่งราบรื่น แต่ช่วงบ่ายเราต้องพบกับฝนที่โปรยปรายลงมาเป็นระยะ พวกเราถึงขอนแก่นในสภาพที่มอมแมมด้วยน้ำฝนและคราบโคลนที่ดีดมาจากล้อรถจักรยาน มีพี่น้องเสื้อแดงกลุ่มเล็กๆที่ทราบข่าวกิจกรรมเส้นทางสีแดงและตัดสินใจรอรับพวกเราที่ขอนแก่นแทนที่จะเดินทางมาราชประสงค์เพื่อร่วมชุมนุมครอบรอบ 1 ปี พวกเราแวะไปทำกิจกรรมจุดเทียนแดง ผูกผ้าแดง และร้องเพลงนักสู้ธุลีดินให้กับวีรชนที่จากไปกลางเมืองขอนแก่นในเวลาเดียวกับที่พีน้องเสื้อแดงส่วนใหญ่อยู่ที่ราชประสงค์
.
วันที่ 13 ของกิจกรรม (20 พค.2554)
เช้าวันถัดมาพวกเราปั่นจักรยานจากขอนแก่นมาอุดรธานี จุดหมายปลายทางคือสถานีวิทยุชุมชนคนรักอุดร ระยะทาง 115 กม. พวกเราได้นัดหมายเจ้าหน้าที่จากคอป.ที่จะมาร่วมเก็บข้อมูลการเยี่ยมคุณเกียรติศักดิ์ที่ตาบอดเพราะแก๊สน้ำตาในเช้าวันถัดไป พวกเรามาถึงสถานีในเวลา 18.00 น. โดยก่อนเข้าสถานีได้แวะตลาดที่อยู่ไม่ไกล ได้รับแรงใจและอาหารผลไม้จากแม่ค้าในตลาดไปฝากพี่น้องที่สถานี ได้พบกับน้องๆและเจ้าหน้าที่สถานีหลายคนที่เคยพบกันเมื่อครั้งมาทำกิจกรรมที่อีสานตอนปลายปี 2553 หลายคนมาทักทายด้วยความคุ้นเคย สิ่งที่แปลกตาไปคือสถานีวิทยุที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ และขวัญกำลังใจของทุกคนที่นี่เนื่องจากคุณขวัญชัยที่เปรียบเสมือนร่มโพธิ์ร่มไทนของพวกเขาได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำก่อนหน้านี้
.
วันที่ 14 ของกิจกรรม (21 พค.2554)
เช้านี้พวกเราได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของคอป.ว่าติดภารกิจด่วนไม่สารถเดินทางมาที่อุดรได้ตามที่นัดหมาย แต่ได้ฝากคำถามให้พวกเราซักถามผู้ได้รับผลกระทบในขณะเยี่ยมเยียนและได้ขอให้ถ่ายคลิปการสัมภาษณ์ให้ด้วยเพื่อที่จะได้เก็บข้อมูลและประเมินความรุนแรงของผลกระทบที่ได้รับ พวกเราออกเดินทางจากสถานีวิทยุในเวลาเช้าโดยการนำของคุณอาภรณ์ ภรรยาคุณขวัญชัยเพื่อไปเยี่ยมคุณเกียรติศักดิ์ ซึ่งบาดเจ็บจากการเข้าร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯเมื่อปีกลาย
.
คุณเกียรติศักดิ์ดูสดชื่นกว่าเมื่อ 6 เดือนก่อนที่เราพบอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นถึงสภาพจิตใจที่ดีขึ้น คุณเกียรติศักดิ์รอพวกเราพร้อมกับครอบครัวซึ่งได้แก่น้องสาว และลูกสาว ส่วนภรรยาไปทำงานตามปกติ หลังจากทักทายในฐานะเพื่อนเก่าผมก็ได้ทำการสัมภาษณ์คุณเกียรติศักดิ์เพื่อส่งให้กับคอป.จำนวน 2 คลิป ตลอดเวลา 46 นาทีของการสัมภาษณฺ์คุณเกียรติศักดิ์มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อนึกถึงอดีตที่เคยร่วมต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย หลังจากนั้นได้มอบเงินที่พี่น้องเสื้อแดงบริจาคให้เพื่อเยียวยาจำนวน 2,000 บาท หลังจากการสัมภาษณ์เสร็จสิ้น ผมได้ขอลูกสาวอายุ 13 ขวบซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมเขียนจดหมายถึงคุณยิ่งลักษณ์เพื่อสนับสนุนทุนการศึกษา ซึ่งผมรับปากจะนำไปมอบให้ทันทีที่พวกเราเดินทางกลับกรุงเทพฯ
http://www.youtube.com/watch?v=RSVx9XJJkmo
http://www.youtube.com/watch?v=h7NZKFnEQhg (นาทีที่ 10.15 มีข้อมูลในการติดต่อคุณเกียรติศักดิ์ )
.
( หมายเหตุ : คุณเกียรติศักดิ์เกิดมามีดวงตาข้างซ้ายเพียงข้างเดียว ในวันที่ 12 มีค.คุณเกียรติศักดิ์ได้ออกจากบ้านเพื่อไปชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยที่กรุงเทพ ในวันที่ 10 เมย.2553 เมื่อทหารเริ่มสลายการชุมนุมและโยนแก๊สน้ำตาลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ที่ผ่านฟ้า คุณเกียรติศักดิ์ถูกแก๊สน้ำตาเข้าที่ใบหน้าจำนวนมากทำให้หมดสติไปและถูกนำส่งโรงพยาบาล คุณเกียรติศักดิ์ได้บอกกับผมว่าคุณหมอที่โรงพยาบาลปฏิเสธที่จะให้การรักษาเนื่องจากว่าเป็นคนเสื้อแดง รับจ้างทักษินมาป่วนบ้านเมือง คุณเกียรติศักดิ์ถูกนำตัวกลับมาพักฟื้นที่อุดร และเนื่องจากมีฐานะยากจนไม่สามารถรับการรักษาอย่างถูกต้อง เป็นเหตุให้ดวงตาข้างขวาที่เหลืออยู่ข้างเดียวบอดสนิทไปในที่สุด .. ผมได้พบคุณเกียรติศักดิ์ครั้งแรกในวันที่ 29 พย. 2553 จากการมาทำกิจกรรมเส้นทางสีแดงครั้งแรก ครั้งนั้นได้มาเยี่ยมกับทีมปั่นจักรยานเส้นทางสีแดง คุณอาภรณ์ คณะของมูลนิธิวีรชนเพื่อประชาธิปไตย และท่านเจ้าอาวาสวัดป่าสีวลีค์ จังหวัดสระบุรี คุณเกียรติศักดิ์ได้เล่าประวัติส่วนนี้ให้พวกเราฟังพร้อมกับขอร้องให้ผมนำเรื่องของคุณเกียรติศักดิ์ไปเผยแพร่ต่อทางอินเทอร์เนท ซึ่งผมได้รับปาก หลังจากกลับถึงกรุงเทพ ผมได้นำเรื่องของคุณเกียรติศักดิ์ไปเล่าทุกที่ที่มีโอกาส ทั้งการสัมภาษณ์ทางเวปไซด์ต่างๆ ทั้งจากการเสวนาแดงเหลืองที่ศูนย์สันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งได้สร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้รับฟัง ที่บ้านโป่งจังหวัดราชบุรีมีหลายคนที่ต้องลุกหนีไปปาดน้ำตาเมื่อได้ฟังเรื่องนี้ .. สำหรับเส้นทางสีแดง กรณีคุณเกียรติศักดิ์ถือเป็นแรงบันดาลใจที่จะทำกิจกรรมเพื่อมนุษยธรรมเพื่อผู้ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้คุณเกียรติศักดิ์ยังคงใช้ชีวิตอย่างสงบที่บ้าน หากท่านต้องการพูดคุย ให้กำลังใจ ต้องการเยี่ยมเยียน หรือต้องการให้ความช่วยเหลือ คุณเกียรติศักดิ์ได้ให้ข้อมูลไว้ในคลิปที่ 2 นาทีที่ 10.15 )
(คุณเกียรติศักดิ์ มาอาสา บ้านเลขที่ 130/3 ม.1 ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 เบอร์โทรภรรยา 089-5738578 เบอร์ลูกสาว 086-0661566 )
หลังจากนั้นพวกเราได้เดินทางมาที่หนองคาย พักที่วัดหายโศกซึ่งอยู่ริมมแม่น้ำโขง และในวันที่ 22 พฤษภาคม พวกเราจะเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวเด็กกำพร้าที่อ.ปาดคาด จ.หนองคาย ระยะทาง 90 กม.
พวกเราออกเดินทางหลังจากที่หนูน้อยปลายฟ้าฝากจดหมายถึงคุณยิ่งลักษณ์เสร็จสิ้น ระยะทางจากชุมแพถึงขอนแก่น 125 กม. การปั่นจักรยานในช่วงเช้าเป็นไปอย่า่งราบรื่น แต่ช่วงบ่ายเราต้องพบกับฝนที่โปรยปรายลงมาเป็นระยะ พวกเราถึงขอนแก่นในสภาพที่มอมแมมด้วยน้ำฝนและคราบโคลนที่ดีดมาจากล้อรถจักรยาน มีพี่น้องเสื้อแดงกลุ่มเล็กๆที่ทราบข่าวกิจกรรมเส้นทางสีแดงและตัดสินใจรอรับพวกเราที่ขอนแก่นแทนที่จะเดินทางมาราชประสงค์เพื่อร่วมชุมนุมครอบรอบ 1 ปี พวกเราแวะไปทำกิจกรรมจุดเทียนแดง ผูกผ้าแดง และร้องเพลงนักสู้ธุลีดินให้กับวีรชนที่จากไปกลางเมืองขอนแก่นในเวลาเดียวกับที่พีน้องเสื้อแดงส่วนใหญ่อยู่ที่ราชประสงค์
.
วันที่ 13 ของกิจกรรม (20 พค.2554)
เช้าวันถัดมาพวกเราปั่นจักรยานจากขอนแก่นมาอุดรธานี จุดหมายปลายทางคือสถานีวิทยุชุมชนคนรักอุดร ระยะทาง 115 กม. พวกเราได้นัดหมายเจ้าหน้าที่จากคอป.ที่จะมาร่วมเก็บข้อมูลการเยี่ยมคุณเกียรติศักดิ์ที่ตาบอดเพราะแก๊สน้ำตาในเช้าวันถัดไป พวกเรามาถึงสถานีในเวลา 18.00 น. โดยก่อนเข้าสถานีได้แวะตลาดที่อยู่ไม่ไกล ได้รับแรงใจและอาหารผลไม้จากแม่ค้าในตลาดไปฝากพี่น้องที่สถานี ได้พบกับน้องๆและเจ้าหน้าที่สถานีหลายคนที่เคยพบกันเมื่อครั้งมาทำกิจกรรมที่อีสานตอนปลายปี 2553 หลายคนมาทักทายด้วยความคุ้นเคย สิ่งที่แปลกตาไปคือสถานีวิทยุที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ และขวัญกำลังใจของทุกคนที่นี่เนื่องจากคุณขวัญชัยที่เปรียบเสมือนร่มโพธิ์ร่มไทนของพวกเขาได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำก่อนหน้านี้
.
วันที่ 14 ของกิจกรรม (21 พค.2554)
เช้านี้พวกเราได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของคอป.ว่าติดภารกิจด่วนไม่สารถเดินทางมาที่อุดรได้ตามที่นัดหมาย แต่ได้ฝากคำถามให้พวกเราซักถามผู้ได้รับผลกระทบในขณะเยี่ยมเยียนและได้ขอให้ถ่ายคลิปการสัมภาษณ์ให้ด้วยเพื่อที่จะได้เก็บข้อมูลและประเมินความรุนแรงของผลกระทบที่ได้รับ พวกเราออกเดินทางจากสถานีวิทยุในเวลาเช้าโดยการนำของคุณอาภรณ์ ภรรยาคุณขวัญชัยเพื่อไปเยี่ยมคุณเกียรติศักดิ์ ซึ่งบาดเจ็บจากการเข้าร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯเมื่อปีกลาย
.
คุณเกียรติศักดิ์ดูสดชื่นกว่าเมื่อ 6 เดือนก่อนที่เราพบอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นถึงสภาพจิตใจที่ดีขึ้น คุณเกียรติศักดิ์รอพวกเราพร้อมกับครอบครัวซึ่งได้แก่น้องสาว และลูกสาว ส่วนภรรยาไปทำงานตามปกติ หลังจากทักทายในฐานะเพื่อนเก่าผมก็ได้ทำการสัมภาษณ์คุณเกียรติศักดิ์เพื่อส่งให้กับคอป.จำนวน 2 คลิป ตลอดเวลา 46 นาทีของการสัมภาษณฺ์คุณเกียรติศักดิ์มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อนึกถึงอดีตที่เคยร่วมต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย หลังจากนั้นได้มอบเงินที่พี่น้องเสื้อแดงบริจาคให้เพื่อเยียวยาจำนวน 2,000 บาท หลังจากการสัมภาษณ์เสร็จสิ้น ผมได้ขอลูกสาวอายุ 13 ขวบซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมเขียนจดหมายถึงคุณยิ่งลักษณ์เพื่อสนับสนุนทุนการศึกษา ซึ่งผมรับปากจะนำไปมอบให้ทันทีที่พวกเราเดินทางกลับกรุงเทพฯ
http://www.youtube.com/watch?v=RSVx9XJJkmo
http://www.youtube.com/watch?v=h7NZKFnEQhg (นาทีที่ 10.15 มีข้อมูลในการติดต่อคุณเกียรติศักดิ์ )
.
( หมายเหตุ : คุณเกียรติศักดิ์เกิดมามีดวงตาข้างซ้ายเพียงข้างเดียว ในวันที่ 12 มีค.คุณเกียรติศักดิ์ได้ออกจากบ้านเพื่อไปชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยที่กรุงเทพ ในวันที่ 10 เมย.2553 เมื่อทหารเริ่มสลายการชุมนุมและโยนแก๊สน้ำตาลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ที่ผ่านฟ้า คุณเกียรติศักดิ์ถูกแก๊สน้ำตาเข้าที่ใบหน้าจำนวนมากทำให้หมดสติไปและถูกนำส่งโรงพยาบาล คุณเกียรติศักดิ์ได้บอกกับผมว่าคุณหมอที่โรงพยาบาลปฏิเสธที่จะให้การรักษาเนื่องจากว่าเป็นคนเสื้อแดง รับจ้างทักษินมาป่วนบ้านเมือง คุณเกียรติศักดิ์ถูกนำตัวกลับมาพักฟื้นที่อุดร และเนื่องจากมีฐานะยากจนไม่สามารถรับการรักษาอย่างถูกต้อง เป็นเหตุให้ดวงตาข้างขวาที่เหลืออยู่ข้างเดียวบอดสนิทไปในที่สุด .. ผมได้พบคุณเกียรติศักดิ์ครั้งแรกในวันที่ 29 พย. 2553 จากการมาทำกิจกรรมเส้นทางสีแดงครั้งแรก ครั้งนั้นได้มาเยี่ยมกับทีมปั่นจักรยานเส้นทางสีแดง คุณอาภรณ์ คณะของมูลนิธิวีรชนเพื่อประชาธิปไตย และท่านเจ้าอาวาสวัดป่าสีวลีค์ จังหวัดสระบุรี คุณเกียรติศักดิ์ได้เล่าประวัติส่วนนี้ให้พวกเราฟังพร้อมกับขอร้องให้ผมนำเรื่องของคุณเกียรติศักดิ์ไปเผยแพร่ต่อทางอินเทอร์เนท ซึ่งผมได้รับปาก หลังจากกลับถึงกรุงเทพ ผมได้นำเรื่องของคุณเกียรติศักดิ์ไปเล่าทุกที่ที่มีโอกาส ทั้งการสัมภาษณ์ทางเวปไซด์ต่างๆ ทั้งจากการเสวนาแดงเหลืองที่ศูนย์สันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งได้สร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้รับฟัง ที่บ้านโป่งจังหวัดราชบุรีมีหลายคนที่ต้องลุกหนีไปปาดน้ำตาเมื่อได้ฟังเรื่องนี้ .. สำหรับเส้นทางสีแดง กรณีคุณเกียรติศักดิ์ถือเป็นแรงบันดาลใจที่จะทำกิจกรรมเพื่อมนุษยธรรมเพื่อผู้ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้คุณเกียรติศักดิ์ยังคงใช้ชีวิตอย่างสงบที่บ้าน หากท่านต้องการพูดคุย ให้กำลังใจ ต้องการเยี่ยมเยียน หรือต้องการให้ความช่วยเหลือ คุณเกียรติศักดิ์ได้ให้ข้อมูลไว้ในคลิปที่ 2 นาทีที่ 10.15 )
(คุณเกียรติศักดิ์ มาอาสา บ้านเลขที่ 130/3 ม.1 ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 เบอร์โทรภรรยา 089-5738578 เบอร์ลูกสาว 086-0661566 )
หลังจากนั้นพวกเราได้เดินทางมาที่หนองคาย พักที่วัดหายโศกซึ่งอยู่ริมมแม่น้ำโขง และในวันที่ 22 พฤษภาคม พวกเราจะเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวเด็กกำพร้าที่อ.ปาดคาด จ.หนองคาย ระยะทาง 90 กม.