วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554

บันทึกเส้นทางสีแดงต้านรัฐประหาร (2)


27 August 2011 at 00:05
วันที่ 12 ของกิจกรรม (19 พค.2554) ต่อ 
พวกเราออกเดินทางหลังจากที่หนูน้อยปลายฟ้าฝากจดหมายถึงคุณยิ่งลักษณ์เสร็จสิ้น ระยะทางจากชุมแพถึงขอนแก่น 125 กม. การปั่นจักรยานในช่วงเช้าเป็นไปอย่า่งราบรื่น แต่ช่วงบ่ายเราต้องพบกับฝนที่โปรยปรายลงมาเป็นระยะ พวกเราถึงขอนแก่นในสภาพที่มอมแมมด้วยน้ำฝนและคราบโคลนที่ดีดมาจากล้อรถจักรยาน มีพี่น้องเสื้อแดงกลุ่มเล็กๆที่ทราบข่าวกิจกรรมเส้นทางสีแดงและตัดสินใจรอรับพวกเราที่ขอนแก่นแทนที่จะเดินทางมาราชประสงค์เพื่อร่วมชุมนุมครอบรอบ 1 ปี พวกเราแวะไปทำกิจกรรมจุดเทียนแดง ผูกผ้าแดง และร้องเพลงนักสู้ธุลีดินให้กับวีรชนที่จากไปกลางเมืองขอนแก่นในเวลาเดียวกับที่พีน้องเสื้อแดงส่วนใหญ่อยู่ที่ราชประสงค์
.
วันที่ 13 ของกิจกรรม (20 พค.2554) 
เช้าวันถัดมาพวกเราปั่นจักรยานจากขอนแก่นมาอุดรธานี จุดหมายปลายทางคือสถานีวิทยุชุมชนคนรักอุดร ระยะทาง 115 กม. พวกเราได้นัดหมายเจ้าหน้าที่จากคอป.ที่จะมาร่วมเก็บข้อมูลการเยี่ยมคุณเกียรติศักดิ์ที่ตาบอดเพราะแก๊สน้ำตาในเช้าวันถัดไป พวกเรามาถึงสถานีในเวลา 18.00 น. โดยก่อนเข้าสถานีได้แวะตลาดที่อยู่ไม่ไกล ได้รับแรงใจและอาหารผลไม้จากแม่ค้าในตลาดไปฝากพี่น้องที่สถานี ได้พบกับน้องๆและเจ้าหน้าที่สถานีหลายคนที่เคยพบกันเมื่อครั้งมาทำกิจกรรมที่อีสานตอนปลายปี 2553 หลายคนมาทักทายด้วยความคุ้นเคย สิ่งที่แปลกตาไปคือสถานีวิทยุที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ และขวัญกำลังใจของทุกคนที่นี่เนื่องจากคุณขวัญชัยที่เปรียบเสมือนร่มโพธิ์ร่มไทนของพวกเขาได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำก่อนหน้านี้
.
วันที่ 14 ของกิจกรรม (21 พค.2554) 
เช้านี้พวกเราได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของคอป.ว่าติดภารกิจด่วนไม่สารถเดินทางมาที่อุดรได้ตามที่นัดหมาย แต่ได้ฝากคำถามให้พวกเราซักถามผู้ได้รับผลกระทบในขณะเยี่ยมเยียนและได้ขอให้ถ่ายคลิปการสัมภาษณ์ให้ด้วยเพื่อที่จะได้เก็บข้อมูลและประเมินความรุนแรงของผลกระทบที่ได้รับ พวกเราออกเดินทางจากสถานีวิทยุในเวลาเช้าโดยการนำของคุณอาภรณ์ ภรรยาคุณขวัญชัยเพื่อไปเยี่ยมคุณเกียรติศักดิ์ ซึ่งบาดเจ็บจากการเข้าร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯเมื่อปีกลาย
.
คุณเกียรติศักดิ์ดูสดชื่นกว่าเมื่อ 6 เดือนก่อนที่เราพบอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นถึงสภาพจิตใจที่ดีขึ้น คุณเกียรติศักดิ์รอพวกเราพร้อมกับครอบครัวซึ่งได้แก่น้องสาว และลูกสาว ส่วนภรรยาไปทำงานตามปกติ หลังจากทักทายในฐานะเพื่อนเก่าผมก็ได้ทำการสัมภาษณ์คุณเกียรติศักดิ์เพื่อส่งให้กับคอป.จำนวน 2 คลิป  ตลอดเวลา 46 นาทีของการสัมภาษณฺ์คุณเกียรติศักดิ์มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อนึกถึงอดีตที่เคยร่วมต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย หลังจากนั้นได้มอบเงินที่พี่น้องเสื้อแดงบริจาคให้เพื่อเยียวยาจำนวน 2,000 บาท หลังจากการสัมภาษณ์เสร็จสิ้น ผมได้ขอลูกสาวอายุ 13 ขวบซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมเขียนจดหมายถึงคุณยิ่งลักษณ์เพื่อสนับสนุนทุนการศึกษา ซึ่งผมรับปากจะนำไปมอบให้ทันทีที่พวกเราเดินทางกลับกรุงเทพฯ
http://www.youtube.com/watch?v=RSVx9XJJkmo
http://www.youtube.com/watch?v=h7NZKFnEQhg (นาทีที่ 10.15 มีข้อมูลในการติดต่อคุณเกียรติศักดิ์ )
.
หมายเหตุ : คุณเกียรติศักดิ์เกิดมามีดวงตาข้างซ้ายเพียงข้างเดียว ในวันที่ 12 มีค.คุณเกียรติศักดิ์ได้ออกจากบ้านเพื่อไปชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยที่กรุงเทพ ในวันที่ 10 เมย.2553 เมื่อทหารเริ่มสลายการชุมนุมและโยนแก๊สน้ำตาลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ที่ผ่านฟ้า คุณเกียรติศักดิ์ถูกแก๊สน้ำตาเข้าที่ใบหน้าจำนวนมากทำให้หมดสติไปและถูกนำส่งโรงพยาบาล คุณเกียรติศักดิ์ได้บอกกับผมว่าคุณหมอที่โรงพยาบาลปฏิเสธที่จะให้การรักษาเนื่องจากว่าเป็นคนเสื้อแดง รับจ้างทักษินมาป่วนบ้านเมือง คุณเกียรติศักดิ์ถูกนำตัวกลับมาพักฟื้นที่อุดร และเนื่องจากมีฐานะยากจนไม่สามารถรับการรักษาอย่างถูกต้อง เป็นเหตุให้ดวงตาข้างขวาที่เหลืออยู่ข้างเดียวบอดสนิทไปในที่สุด .. ผมได้พบคุณเกียรติศักดิ์ครั้งแรกในวันที่ 29 พย. 2553 จากการมาทำกิจกรรมเส้นทางสีแดงครั้งแรก ครั้งนั้นได้มาเยี่ยมกับทีมปั่นจักรยานเส้นทางสีแดง คุณอาภรณ์ คณะของมูลนิธิวีรชนเพื่อประชาธิปไตย และท่านเจ้าอาวาสวัดป่าสีวลีค์ จังหวัดสระบุรี คุณเกียรติศักดิ์ได้เล่าประวัติส่วนนี้ให้พวกเราฟังพร้อมกับขอร้องให้ผมนำเรื่องของคุณเกียรติศักดิ์ไปเผยแพร่ต่อทางอินเทอร์เนท ซึ่งผมได้รับปาก หลังจากกลับถึงกรุงเทพ ผมได้นำเรื่องของคุณเกียรติศักดิ์ไปเล่าทุกที่ที่มีโอกาส ทั้งการสัมภาษณ์ทางเวปไซด์ต่างๆ ทั้งจากการเสวนาแดงเหลืองที่ศูนย์สันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งได้สร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้รับฟัง ที่บ้านโป่งจังหวัดราชบุรีมีหลายคนที่ต้องลุกหนีไปปาดน้ำตาเมื่อได้ฟังเรื่องนี้ .. สำหรับเส้นทางสีแดง กรณีคุณเกียรติศักดิ์ถือเป็นแรงบันดาลใจที่จะทำกิจกรรมเพื่อมนุษยธรรมเพื่อผู้ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้คุณเกียรติศักดิ์ยังคงใช้ชีวิตอย่างสงบที่บ้าน หากท่านต้องการพูดคุย ให้กำลังใจ ต้องการเยี่ยมเยียน หรือต้องการให้ความช่วยเหลือ คุณเกียรติศักดิ์ได้ให้ข้อมูลไว้ในคลิปที่ 2 นาทีที่ 10.15 )

(คุณเกียรติศักดิ์ มาอาสา บ้านเลขที่ 130/3 ม.1 ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000 เบอร์โทรภรรยา 089-5738578 เบอร์ลูกสาว 086-0661566 )

หลังจากนั้นพวกเราได้เดินทางมาที่หนองคาย พักที่วัดหายโศกซึ่งอยู่ริมมแม่น้ำโขง และในวันที่ 22 พฤษภาคม พวกเราจะเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวเด็กกำพร้าที่อ.ปาดคาด จ.หนองคาย ระยะทาง 90 กม.

วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554

บันทึกเส้นทางสีแดงต้านรัฐประหาร (1)


23 August 2011 at 13:11
กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรรมเส้นทางสีแดงครั้งที่ 3 ชื่อกิจกรรมเส้นทางสีแดงต้านรัฐประหาร (Red Path Project : No Coup Fair Election) เป็นโครงการปั่นจักรยานทางไกลทั่วประเทศ 4 ภาค 37 จังหวัด ระยะทาง 3,793 กม. ใช้เวลา 42 วัน (ตั้งแต่วันที่ 8 พค.-19 มิย. 2554) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์เลือกตั้งและต่อต้านรัฐประการ ตลอดระยะทางเกือบสี่พันกิโลได้ทำการแวะเยี่ยมเยียนผู้ได้รับผลกระทบจากการ ชุมนุมและมอบเงินบริจาคเพื่อเยียวยา และได้ถ่ายคลิปวีดีโอการทำกิจกรรมนับร้อยคลิปเพื่อทำการเผยแพร่


เส้นทาง : ราชประสงค์-อุดรธานี-เชียงใหม่-ชุมพร

วันที่ 1 ของกิจกรรม (8 พค.2554)
กิจกรรมเส้นทางสีแดงต้านรัฐประหารเคลื่อนขบวนออกจากราชประสงค์ในเวลา 14.00 น. พวกเราใช้เส้นทางถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าสุขุมวิทซอย 31 เพื่อนำปี้บไปมอบให้กับนายอภิสิทธิ์ตามที่ได้ตั้งใจไว้ โดยเสธ.ดำ (คนหน้าเหมือนเสธ.แดง) ได้นำปี้บผูกท้ายรถและวิ่งลากไปตลอดทาง เมื่อถึงปากซอยพบเจ้าหน้าที่ตำรวจจากบชน.มา "ต้อนรับ" ขบวนเส้นทางสีแดงที่ปากทาง พวกเราได้กล่าวคำทักทายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่แสดงท่าทีที่เป็นมิตรกับพวก เราและได้สอบถามว่าปี้บ 3 ใบที่นำมามอบให้นี้จะมอบให้กับใครบ้าง ผมตอบไปว่าให้กับ นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ ที่ได้ร่วมกันพิจารณางบประมาณแผ่นดินนัดทิ้งทวนกว่าหกแสนล้านบาท และอีกใบแถมให้นายธ่าริตด้วย http://www.youtube.com/watch?v=tRt2M6T9Zzc

ขบวนเส้นทางสีแดงได้ถึงสมุทรปราการในเย็นวันนั้น และได้รับความอนุเคราะห์จากเสธ.ดำในการเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารเย็น พวกเราได้ร่วมกันถ่ายภาพและคลิปไว้เป็นที่ระลึกhttp://www.youtube.com/watch?v=7OLpeDz-f0s

วันที่ 2 และ 3 ของกิจกรรม (9-10 พค.2554)
 พวกเราได้ออกเดินทางไปฉะเชิงเทราและได้เข้าพักที่วัดประตูน้ำ ซึ่งได้รับการเลี้ยงอาหารเย็นโดยคนเสื้อแดงที่ทราบข่าวกิจกรรมนี้ วัดถัดไปพวกเราปั่นจักรยานตั้งแต่ 8.00 น. มุ่งหน้าพัทยาซึ่งได้รับการรับกิจกรรมโดยกลุ่มพัทยา 52 และประสานงานผ่านคลื่น FM 89 MHz โดยได้จัดพี่น้องเสื้อแดงมารับพวกเราที่แหลมฉบัง พวกเราถึงจุดแวะพักวัดจิตภาวันท์ซึ่งพวกเราได้กราบขอพรจากท่านเจ้าอาวาส ซึ่งท่านได้กรุณาสั่งสอนเราให้ดำเนินกิจกรรมโดยยึดหลักความเพียร และยังได้แนะนำหลักในการเลือกผู้นำในการปกครองประเทศ ซึ่งผมได้ถ่ายคลิปไว้จำนวน 2 คลิป หลังจากนั้นได้เดินทางไปที่พักบริเวณไกล้กับชายหาดจอมเทียน
http://www.youtube.com/watch?v=VUHn_KtvfwU
http://www.youtube.com/watch?v=ca_-cfn9yxw
http://www.youtube.com/watch?v=xJjF5f9pjV8

ในคืนนั้นได้มีโอกาสสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมืองกับพี่น้องเสื้อแดงพัทยา มีผู้ใหญ่ของคนเสื้อแดงที่พัทยาได้แวะมาให้กำลังใจและสอบถามรายละเอียดกิจกรรม โดยผมได้แจ้งว่าภารกิจหลักของกิจกรรมนี้คือการเดินทางไกลเพื่อแสดงเจตนาต้านรัฐประหารและรณรงค์เลือกตั้ง และจะถือโอกาสแวะเยี่ยมผู้ได้รับผู้สูญเสียจากการชุมนุม โดยที่ภาคอีสานในวันที่ 21 พค.พวกเราจะไปเยี่ยมเยียนคุณเกียรติศักดิ์ที่อุดรธานีและ 22 พค.เยี่ยมเด็กกำพร้าที่อ.ปากคาด จ.หนองคาย ซึ่งจะมีตัวแทนจากคอป.(คณะกรรมการอิสระตวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อแนวทาง ปรองดองแห่งชาติ) เดินทางไปเกับพวกเราด้วย หลังจากนั้นพวกเราจะรวมรวมเงินบริจาคและเดินทางต่อไปภาคเหนือเพื่อเยี่ยม เยียนผู้ต้องขัง 7 คนที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ และแวะเยี่ยมเยียนสถานีวิทยุคนเสื้อแดงที่เชียงรายซึ่งเพิ่งจะตั้งเมื่อวัน เสารที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา

วันที่ 4 ของกิจกรรม (11 พค.2554)
พวกเราออกเดินทางจากพัทยาประมาณ 8.00 น.ผ่านหาดบางเสร่ ถึงระยองประมาณ 16.00 น. ได้รับการรับรองอาหารและที่พักโดยคุณลุงยงซึ่งเป็นคนเสื้อแดงมาหลายปี คุณลุงยงอายุ 80 กว่าแต่สุขภาพยังแข็งแรงเหมือนคนวัย 50 เศษ คุณลุงยุงได้เล่าประสพการณ์การชุมนุมให้กับผมฟังเป็นการส่วนตัวซึ่งมีหลาย มุมมองที่ผมไม่เคยทราบมาก่อน ผมได้ทำการถ่ายคลิปไว้เผยแพร่ ตกดึกได้มีพี่น้องเสื้อแดงจากระยองที่ทราบข่าวเดินทางมาสมทบ เช่นเคยว่าพวกเราได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมือง และผมก็ได้ตอบคำถามกรณีที่ได้ขึ้นเวทีคนไทยหัวใจรักชาติเมื่อ 16 มค.อีกครั้ง

วันที่ 5 ของกิจกรรม (12 พค.2554)
เช้าวันถัดมาพวกเราเดินทางออกจากระยองและมาถึงจังหวัดจันทบุรี ระยะทางกว่า 110 กม. พวกเรามาถึงจุดนัดหมายคือสนามกีฬาสามเหลี่ยมและได้พบปะพี่น้องเสื้อแดงกว่า ร้อยคนที่มารอเราอยู่ แกนนำที่ต้องรับเราคือคุณอู้ด ภรรยาของสจ.สำเริง สนามสามเหลี่ยมแห่งนี้เป็นสถานที่นัดพบของพี่น้องเสื้อแดงจันทบุรี เย็นวันนั้นพวกเราได้รับการแนะนำตนเองและกิจกรรม แกนนำของจันทบุรีหลายคนได้ช่วยเราระดมเงินบริจาคเพื่อที่จะนำมามอบให้กับผู้ ที่บาดเจ็บและพิการจากการชุมนุมซึ่งผมได้ถ่ายทำคลิปบรรยากาศการปราศัยย่อย และระดมทุนไว้ด้วย http://www.youtube.com/watch?v=ZWEGs8x4uLk

วันที่ 6 ของกิจกรรม (13 พค.2554)
เช้าวันถัดมาพวกเราได้พบผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมรายแรกชื่อ ลุงเนียม แก้วจินดา อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่74/1 ม.5 ต. คลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน จ. จันทบุรี คุณลุงเนียมได้ปะทะกับทหารในวันที่ 10 เมย.ที่สี่แยกคอกวัว และเป็นผู้หนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ช่างภาพชาวญี่ปุ่นถูกยิงเสียชีวิต คุณลุงเนียมถูกสะเก็ดระเบิดที่ข้อเท้าซ้ายตัดเอ็นร้อยหวายขาด ถึงแม้ว่าจะผ่านไป 1 ปีแต่ปัจจุบันคุณลุงเนียมยังไม่สามารถเดินเหินได้ตามปกติ พวกเราได้มอบเงินบริจาคจำนวน 2000 บาท และได้เดินทางมาที่อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ได้รับการต้อนรับโดยคุณเยาวและพี่น้องเสื้อแดงหลายสิบคนที่ร้านอาหารของคุณ เยาว
http://www.youtube.com/watch?v=Z2GCmg7BkCs

วันที่ 7 ของกิจกรรม (14 พค.2554)
พวกเราปั่นจักรยานจากอ.วัฒนานคร จ.สระแก้วตั้งแต่เวลา 7.20 น. ใช้เวลา 5 ชม.ถึงอ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ระยะทางกว่า 80 กม. พักรับประทานอาหารเที่ยงและหลังจากนั้นเดินทางไปจนถึงอ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ฝนที่ตกหนักทำให้พี่น้องเสื้อแดงปราจีนที่มารับอาสาบรรทุกรถจักรยานและพาพวก เรามาถึงที่ทำการชมรมแดงปราจีน 52 ในเวลาประมาณ 14.00 น. หลังจากนั้นเวลา 15.00 น. พวกเราพร้อมด้วยพี่น้องเสื้อแดงปราจีนหลายสิบคนได้ร่วมกันแห่ขบวนแรลลี่ต้าน รัฐประหารและรณรงค์เลือกตั้งไปทั่วเมืองปราจีนบุรี
http://www.youtube.com/watch?v=GLqm2LpTOYc
http://www.youtube.com/watch?v=xCJ2byi9gzo

พร้อมกับได้แวะทำกิจกรรมผูกผ้าแดงที่หน้าค่ายทหาร 4 แห่ง ได้แก่ค่ายพรหมโยธี กองพันทหารม้าที่ 30 ค่ายจักรพงศ์ และมณฑลทหารบกที่ 12 สิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับพวกเรามากคือ ท่าทีของทหารที่ค่อนข้างเป็นมิตรและอนุญาตให้พวกเราผูกผ้าแดงได้บรเวณปากทาง เข้าทุกแห่ง การผูกผ้าแดงหน้าค่ายทหารเป็นกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากผู้สื่อข่าวท้อง ถิ่นมาก เข้าใจว่าน่าจะมีการเผยแพร่ภาพบรรยากาศการทำกิจกรรมผ่านทางสถานีโทรทัศน์ของ คนเสื้อแดง โดยเฉพาะช่อง Spring News โดยผมได้ถ่ายคลิปขณะผูกผ้าแดงทุกค่าย
http://www.youtube.com/watch?v=qTIC-H7QUjY
http://www.youtube.com/watch?v=oRGCPADRiT4
http://www.youtube.com/watch?v=XKLBdwz_oKA
http://www.youtube.com/watch?v=V3IqDopbNQc

หลังจากเสร็จสิ้นการผูกผ้าแดงค่ายทหาร พี่น้องเสื้อแดงปราจีนได้ตั้งแถวเพิ่อเดินขบวนในตัวเมืองเพื่อผุกผ้าแดงที่ สะพานแห่งหนึ่ง มีเด็กน้อยตัวเล็กๆมาร่วมเดินขบวนแถวหน้าด้วย หลังจากเสร็จสิ้นการแรลลี่รอบเมืองปราจีนได้กลับมาให้กำลังพี่น้องเสื้อแดง ที่หน้าที่ทำการชมรมแดงปราจีน 52 อีกครั้ง
http://www.youtube.com/watch?v=ZIjK2-k2chg
http://www.youtube.com/watch?v=W9w5-mWuw4o

วันที่ 8 ของกิจกรรม (15 พค.2554)
พวกเราเดินทางออกจากปราจีนบุรีในเช้าวันอาทิตย์ 15 พค.มุ่งหน้านครนายกโดยมีพี่น้องจากปราจีน รวมถึงคุณลุงปรีชา ซึ่งเป็นนักปั่นอาวุโสของปราจีนร่วมปั่นจักรยานมาส่งที่นครนายก ที่นี่พวกเราได้รับการเลี้ยงอาหารมื้อเที่ยง นำโดยแกนนำนครนายก ซึ่งได้รวมรวบเงินบริจาคมอบให้กับพวกเราจำนวน 2,000 บาท บรรยากาศอบอุ่นมาก ผมได้แจ้งว่าจะนำเงินจำนวนดังกล่าวไปมอบให้กับผู้ได้รับผลกระทบซึ่งรอพวกเรา อยู่ที่จังหวัดสระบุรี หลังจากนั้นได้ปั่นจักรยานมุ่งหน้าสระบุรี บ่ายวันนั้นเราเจอฝนสองครั้ง เสื้อผ้าเปียกแล้วก็แห้ง แห้งแล้วก็เปียกเหมือนสงกรานต์ ต้องไปหลบฝนที่โรงงานทำไม้ร้าง
http://www.youtube.com/watch?v=_-yaUxPXZFM
http://www.youtube.com/watch?v=8iMi708tv8I
http://www.youtube.com/watch?v=HeWqlZ2N_y8
http://www.youtube.com/watch?v=b0sJmoNzvbU

พวกเราถึงวัดป่าสีวลย์ จ.สระบุรีในเวลา 16.00 น.ในสภาพที่เปียกไปทั้งตัว ที่นี่พวกเราพบเพื่อนเก่าหลายคนที่เคยมาเยี่ยมเยียนเมื่อปีที่แล้ว เราได้ฝากเงินจำนวน 2,000 ที่ได้รับจากนครนายกให้กับพระอาจารย์เจ้าอาวาส เนื่องจากทราบว่าผู้ได้รับผลกระทบไม่สามารถเดินทางมาได้ เย็นนั้นท่านเจ้าอาวาสและคุณอี้ดได้พาพวกเราไปชมวิวบนภูเขาไกล้กับวัด บรรยากาศสวยงามมากจนหายเหนื่อย พวกเราค้างคืนที่วัดป่าแห่งนี้ ซึ่งเป็นคืนที่พวกเราหลับสนิทที่สุดคืนหนึ่งหลังจากที่ได้ผั่นจักรยานมากว่า 85 กม.
http://www.youtube.com/watch?v=RYBNTKf5slU

วันที่ 9 ของกิจกรรม (16 พค.2554)

เช้าวันถัดมาพวกเรากราบลาพระอาจารย์และร่ำลาคุณอี้ดและเพื่อนเก่าอีกหลาย ท่าน พวกเราผ่านปากช่องเและแวะพักรับประทานอาหารเที่ยงที่ลำตะคองในเวลาประมาณ 10.00 น. บริเวณนี้เป็นสถานที่ๆพวกเราถูกลอบยิงเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ปีที่แล้ว
พวกเราทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลซึ่งมาดูแลความปลอดภัยให้กับพวก เราว่า นายตำรวจที่ลอบยิงพวกเราถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย และขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการส่งฟ้องของเจ้าหน้าที่ตำรวจสภอ.ลำตะคอง ผมได้แต่หวังว่ากฏแห่งกรรมจะดำเนินไปตามครรลอง

พวกเราผ่านลำตะคอง สี่คิ้ว และถึงอ.ด่านขุนทดในเวลาประมาณ 18.00 น. หลังจากปั่นจักรยานมาระยะทางไม่ต่ำกว่า 80 กม. ที่นี่พวกเราพบพี่น้องเสื้อแดงหลายคนที่เราแวะมาเยี่ยมเยียนเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งได้เชื้อเชิญพวกเราไปพักที่บ้านหนึ่งคืน
http://www.youtube.com/watch?v=Zb7gv1-W7C8
http://www.youtube.com/watch?v=8mI3Mr3mxAY
http://www.youtube.com/watch?v=O2V7ikN7MMI

วันที่ 10 ของกิจกรรม (17 พค.2554)
เช้าวันถัดมาเราเดินทางออกจากด่านขุนทดในเวลา 7.00 น.และมาถึงชัยภูมิในเวลาประมาณ 12.30 น.ซึ่งมีพี่น้องเสื้อแดงโดยการนำของอ.มัยภรณ์และคุณ Gerrit รอต้อนรับพวกเราอยู่ที่อนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล พวกเราจุดธูปเทียนสักการะและถวายพวงมาลัยแดง  หลังจากนั้นได้ไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารช่อระกาแจ่วฮ้อน พวกเราได้รับมอบเงินบริจาคจากพี่น้องเสื้อแดงและเจ้าของร้านจำนวน 1,000 บาท และพวกเราได้นำเงินจำนวนนั้นมอบให้กับอ.มัยภรณ์เพื่อสมทบเป็นค่ารถเพื่อพา พี่น้องชัยภูมิมาร่วมชุมนุมกับพี่น้องเสื้อแดงทั่วประเทศในวันที่ 19 พค.

วันที่ 11 ของกิจกรรม (18 พค.2554)
พวกเราออกเดินทางจากบ้านคุณมัยภรณ์และคุณ Gerrit ในเวลา 8.00 น. เส้นทางจากชัยภูมิมุ่งหน้าชุมแพรถไม่มากนัก มีเหตุหวาดเสียวเล็กน้อยเกิดขึ้นขณะที่พวกเราปั่นจักรยานเมื่อมีรถกระบะสี น้ำตาลยี่ห้อ Yoyota Vego ได้ขับเข้าใกล้จักรยานของพวกเราด้วยความเร็วสูงและพยายามที่จะพุ่งชนท้ายรถ ของพวกเราคันหนึ่ง ไม่ทราบว่าเป็นความตั้งใจที่จะพุ่งชนหรือเพียงแค่การ "ทักทาย" ของผู้ไม่หวังดี สิ่งที่พวกเราทำได้คือจำยี่ห้อ สี และทะเบียนรถและโทรแจ้งสันติบาลที่คอยดูแลพวกเราตลอดเส้นทาง

ระยะทางจากชัยภูมิถึงชุมแพคือ 80 กม. พวกเราถึงเทสโก้ชุมแพในเวลา 15.30 น. ก่อนเวลานัดหมายครึ่งชม.
ที่นั่นพวกเราได้รับการต้อนรับจากประธานนปช.ชุมแพ 52 คุณวีระศักดิ์และพี่น้องชาวชุมแพหลายคน คณะเดินทางได้เดินทางไปพักที่บ้านของคุณวีระศักดิ์ และมีพี่น้องเสื้อแดงจากชุมแพ และต่างอำเภอ รวมถึงจ.ขอนแก่นมาร่วมเสวนาในเย็นวันนั้น พวกเราและคุณ Gerrit ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การชุมนุมร่วมกับแกนนำชาวบ้านและได้คุณ Gerrit ได้ร่วมเป็นวิทยากรให้คำแนะนำในการเลือกตั้ง สิ่งที่น่าสนใจคือชาวชุมแพดูจะตื่นเต้นและดีใจที่มีชาวต่างชาติเป็นคนเสื้อ แดงและร่วมเป็นวิทยากรให้ความรู้ประชาธิปไตยและวิธีการเลือกตั้งโดยมีผมทำ หน้าที่เป็นล่าม http://www.youtube.com/watch?v=wOWL7j3XNlw

วันที่ 12 ของกิจกรรม (19 พค.2554)
ในเช้าวันถัดมาเวลาประมาณ 6.30 น. มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งจูงมือคุณป้าของเธอมาพบพวกเราที่บ้านพัก เด็กหญิงตัวน้อยๆคนนี้เล่าเรื่องของเธอให้พวกเราฟัง ทำให้ผมตัดสินใจถ่ายทำคลิปการสัมภาษณ์และขอให้เธอเขียนจดหมายฉบับหนึ่งขึ้น มา และผมรับปากว่าจะนำไปให้บุคคลที่เธอต้องการทันทีที่ผมกลับกรุงเทพฯ

เรื่องย่อของดญ.ปลายฟ้า .. ดญ.ปลายฟ้าอายุ 9 ปี เรียนชั้นป.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งที่ชุมแพ เธอเป็นเด็กกำพร้า บิดามารดาเสียชีวิตเมื่อเธอยังเล็ก เนื่องจากติดเชื้อ HIV ทั้งคู่ ปัจจุบันเธออยูกับป้าที่เธอเรียกว่าแม่ และตาที่เธอเรียกว่าพ่อ เธอมีความฝันอยากเป็นนางพยาบาล เนื่องจากเธอเข้าใจว่าจะสามารถรักษาพ่อแม่ไม่ให้เสียชีวิต เธอต้องการขอทุนการศึกษาจากคุณปูยิ่งลักษณ์ ผู้ที่เธอได้ยินว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของเมืองไทย
 http://www.youtube.com/watch?v=pWo8JSRM2qY
http://www.youtube.com/watch?v=kZH5XmbJ8fY

หมายเหตุ : ผมได้นำจดหมายของดญ.ปลายฟ้าและจดหมายของเด็กๆที่ส่งให้กับคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตรที่มูลนิธิไทยคมเรียบร้อยแล้ว และได้แจ้งบก.ไทยอีนิวส์รับทราบเพื่อเป็นการอ้างอิงในอนาคต 

เอกสารสำหรับสื่อมวลชน (Eng)
เอกสารสำหรับสื่อมวลชน (Eng)

เอกสารสำหรับสื่อมวลชน (Thai)
เอกสารสำหรับสื่อมวลชน (Thai)

ตารางการเดินทาง
ตารางการเดินทาง