วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2555

บันทึกเส้นทางสีแดงเพื่อสันติภาพ (ตอน 14)


17 March 2012 at 03:57
14. ขึ้นเวทีคนไทยหัวใจรักชาติ

เที่ยงตรงวันที่ 16 มค.2554 ขบวนแรลลี่เส้นทางสีแดง (ราชประสงค์-เชียงราย) เคลื่อนขบวนออกจากราชประสงค์ ขบวนรถจักรยาน มอเตอร์ไซด์ รถเก๋งและรถกระบะร่วมขบวนหลายสิบคัน เวลาประมาณ 12.30 น. ผมพาขบวนผ่านถนนพิษณุโลกเพื่อที่จะไปทักทายกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติเพื่อถ่ายคลิปวีดีโอนำมาเผยแพร่ตามที่ตั้งใจไว้ แต่แล้วพวกเราก็พบกับสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน

กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติได้ตั้งเวทีปิดถนนพิษณุโลกคืนก่อนหน้านั้น ขบวนรถหลายสิบคันต้องจอดอยู่กลางถนนโดยไม่สามารถเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ผมได้ลงมาเจรจากับการ์ดของเวทีซึ่งพบว่าการ์ดไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ ท่าทีของการ์ดไม่ได้มีท่าทีเป็นปฏิปักษ์กับพวกเรา และได้บอกให้ผมรออยู่ที่ด่านซึ่งการ์ดจะไปตามแกนนำมาเจรจา ขณะนั้นมีตำรวจหลายนายยืนดูแลความเรียบร้อย

ในระหว่างที่ยืนรอนั้น ผมสังเกตุเห็นคนเสื้อแดงที่ตามมาส่งทยอยลงจากรถมาดูสถานการณ์ ผมเห็นผู้ชุมนุมของกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติมายืนดูสถานการณ์เช่นเดียวกัน กลุ่มผู้ชุมนุมแทบทั้งหมดใส่เสื้อม่อฮ่อมและส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้สูงอายุที่มาจากชนบท ทั้งสองฝ่ายไม่มีใครแสดงท่าทีที่เป็นศัตรูกัน ตรงกันข้าม ผมเห็นภาพที่น่ารักและประทับใจมาก นั่นคือภาพของคนสองกลุ่มทักทายกันด้วยอัธยาศัยไมตรี บางคนยกมือไหว้กัน บางคนยิ้มแย้มจับมือกัน

หลังจากนั้นผมเห็นคุณไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ซึ่งเป็นแกนนำของกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติรีบเดินมาที่ด่านพร้อมกับนักข่าวจำนวนมากที่วิ่งตามมา เมื่อมาถึงที่ด่านผมเห็นคุณไชยวัฒน์ยกมือไหว้พวกเราอย่างสุภาพด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มพร้อมกับยื่นมือมาให้พวกเราจับอย่างมีไมตรี แน่นอนว่าภาพที่น่าประทับใจที่คนสองสีเสื้อจับมือโอภาปราศัยกันอย่างฉันมิตรนั้นนั้นถูกบันทึกไว้โดยสื่อมวลชนและช่างภาพอิสระจำนวนมาก

เมื่อทราบจุดประสงค์ของการมาแวะเยี่ยมเยียน คุณไชยวัฒน์ได้ขอเชิญตัวแทนกลุ่มเส้นทางสีแดงหนึ่งคน (ย้ำว่าเพียงหนึ่งคน) ขึ้นไปกล่าวคำทักทายผู้ชุมนุมที่เวที ผมมีเวลาตัดสินใจเพียงชั่วเวลาสั้นๆ สิ่งที่ผมมองเห็นคือโอกาสในการที่คนเสื้อแดงจะได้พูดคุยกับคนไทยต่างสีเสื้อต่างอุดมการณ์บนเวทีของเขา โดยมีแกนนำของเขามาเชื้อเชิญ และสื่อมวลชนของ Voice TV และช่อง 3 พร้อมกับสื่อมวลชนของเขาเองก็พร้อมที่จะทำข่าว .. แล้วทำไมผมจะต้องปฏิเสธโอกาสนี้

ผมตัดสินใจตอบตกลงและเดินเข้าไปเพียงลำพัง มีพี่ๆน้องๆที่มาร่วมกิจกรรมกับผมเดินตามผมเข้าไป ผมเข้าใจว่าพวกเขาคงจะไม่ไว้วางใจในความปลอดภัยจึงเดินเข้าไปด้วย เมื่อถึงเวทีพวกเราได้รับคำเชิญจากพิธีกรให้ขึ้นเวที พวกเราเดินขึ้นเวทีประมาณ 5-6 คน และนั่นเป็นประวัติศาสตร์ของคนต่างสีเสื้อที่มีการขึ้นเวทีข้ามสีเป็นครั้งแรก !

สิ่งที่พวกเราพูดบนเวทีนั้นเป็นการแนะนำตัวและพูดเรื่องกิจกรรมของเส้นทางสีแดงล้วนๆ พวกเราพูดกันคนละไม่เกิน 2 นาที ผมเป็นคนสรุปปิดท้าย 2 นาที สาระสำคัญอยู่ตรงประโยคที่ว่า "วันนี้ตั้งใจจะมาขอให้กำลังใจพี่น้องต่างสีอีกครั้งเพื่อที่จะแสดงความรู้สึกว่า ถึงแม้ว่าเราจะมีความคิดต่างกันแต่ที่สำคัญที่สุดคือเราต่างเป็นคนไทยที่มีหัวใจที่รักชาติเหมือนกัน ... กิจกรรมเส้นทางสีแดงไม่มีพรรคการเมืองใดอยุ่เบื้องหลัง เราทำกิจกรรมในภาคประชาชน ... เราทำทุกอย่างเพื่อสันติสุขของคนไทยและแผ่นดินไทย"

พวกเราใช้เวลาบนเวทีไม่เกิน 10 นาทีหลังจากนั้นก็รีบลงมา มีนักข่าวจาก Voice TV และสื่อของกลุ่มคนไทยได้มาขอสัมภาษณ์ ประโยคที่สำคัญในการให้สัมภาษณ์ของผมอยู่ที่คำว่า "พวกเราต่างสีกันอาจจะมีความเห็นที่ต่างกันได้ไม่เป็นไร แต่ว่าความรักความสามัคคีจะต้องเกิดขึ้น"  

ภาพที่น่าประทับใจเกิดขึ้นอีกครั้งหลังจากที่พวกเราเดินกลับออกมา ได้มีกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติเดินมาส่งพวกเราถึงที่ด่านและโบกมือร่ำลากัน มีภาพที่น่าประทับใจที่คนต่างสีเสื้อได้นำตีนตบสีแดงมาสัมผัสกับมือตบสีเหลืองด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ภาพนั้นได้กระจายไปทั่วประเทศ

พวกเราได้ย้อนกลับมาสมทบกับขบวนแรลลี่จากนั้นได้มุ่งหน้าไปที่อนุเสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในเวลา 13.00 น. หลังจากสักการะขอพรในการเดินทางตลอด 28 วัน 2,438 กม.พวกเราก็ออกเดินทางมุ่งหน้านครปฐมเป็นเป้าหมายแรกโดยที่ไม่รู้เลยว่า 10 นาทีบนเวทีคนไทยนั้นจะเป็นข่าวใหญ่พาดหัวหนังสือพิมพ์ทุกฉบับในวันรุ่งขึ้น

คลิปข่าวช่อง 3 http://www.youtube.com/watch?v=cwVbT-FpG44
คลิปข่าว Voice TV http://www.youtube.com/watch?v=NfW5TALNTqw

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น