27. บึงกาฬ สกลนคร นครพนม
เช้าวันที่ 25 มค.พวกเราได้ปั่นจักรยานไปจ.บึงกาฬซึ่งเป็นจังหวัดเกิดใหม่จังหวัดที่ 77 ที่แยกตัวออกมาจากจ.หนองคาย ได้เข้าพักที่วัดแห่งหนึ่งติดแม่น้ำโขง คืนนั้นต้องอาบน้ำท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ กลางคืนกางเตนท์นอนหน้ากุฏิเจ้าอาวาสบนพื้นที่แข็งกระด้างและเย็นจับใจทำให้อาการไข้กำเริบขึ้นอีกครั้ง
เช้าวันถัดมาพวกเราปั่นจักรยานไปอ.ศรีวิไล แกนนำชาวบ้านได้พาพวกเราไปเยี่ยมครอบครัวของคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำหลังการเลือกตั้งปี 2554 พวกเราได้เข้าไปที่บ้านเล็กๆหลังหนึ่งและเข้าไปนั่งสนทนากันในห้องนอนของผู้ตาย มีรูปของพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตรขนาดสูง 2.5 เมตรแต่งกายด้วยเครื่องราชอิสริยาภรณ์ติดอยู่ข้างประตูห้อง ชาวบ้านเล่าว่าผู้ตายชื่อนางพวงจันทร์ ถานโอฬาร อายุ 44 ปี มีอาชีพเป็นอาสาสมัครอพปร. (อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน) มีบุตร 3 คน คนโตเป็นชายทำงานในกรุงเทพ คนกลางและคนเล็กเป็นหญิงต้องอาศัยอยู่กับย่าซึ่งเป็นคนเสื้อเหลือง ความสัมพันธ์ระหว่างย่าและหลานทั้งสองไม่ดีนักเนื่องจากความขัดแย้งของอุดมการณ์ต่างสีเสื้อ
ชาวบ้านเล่าว่าก่อนเสียชีวิตผู้ตายเป็นคนเสื้อแดงและรักนายกทักษิณมาก ได้ช่วยกันรณรงค์หาเสียงให้กับผู้สมัครสส.พรรคเพื่อไทยโดยไม่ได้รับการว่าจ้างหรือไหว้วาน ผู้ตายเสียชีวิตจากการถูกของแข็งกระแทกเข้าที่ท้ายทอยในวันที่ 20 กย.2554 ก่อนเสียชีวิตผู้ตายกำลังสนทนาโทรศัพท์กับแกนนำคนเสื้อแดงและได้ยินเสียงผู้ตายมีปากเสียงกับคนร้าย ต่อมาเสียงก็ขาดหายไป สันนิฐานว่าถูกคนร้ายใช้ของแข็งตีเข้าที่ท้ายทอยและหลบหนี เมื่อชาวบ้านมาพบได้นำตัวส่งโรงพยาลแต่ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ทัน
พวกเราได้มอบเงินบริจาคให้กับบุตรสาวของผู้เสียชีวิตเป็นเงิน 1,000 บาทและถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึก (หากท่านใดประสงค์จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือเด็กทั้งสองคนกรุณาติดต่อโดยตรงที่ นส.นงคราญ ถานโอฬาร หรือน้องอ้น ที่อยู่ 93 ม.12 บ้านศรีวิไลพัฒนา อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ 83210 เบอร์โทร 087-1984282) คืนนั้นได้พักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งที่เจ้าของเป็นคนเสื้อแดง และเคยรู้จักกันเมื่อครั้งผมเคลื่อนไหวอยู่ในแคมฟร้อก
เช้าวันที่ 26 มค. พวกเราได้ปั่นจักรยานมุ่งหน้าสกลนคร อ.พังโคน ระยะทาง 128 กม. ที่สกลนครเส้นทางสีแดงจะแวะทำกิจกรรมที่อ.พังโคน และอ.เมือง ผู้ประสานงานคือคุณพราหมณ์ศักดิ์รพี จนถึงเย็นวันนั้นพวกเราได้ปั่นจักรยานออกจากราชประสงค์ด้วยระยะทางกว่า 1,447 กม.หรือเกินกว่าครึ่งของระยะทางทั้งหมด อาการไข้ของผมเริ่มดีขึ้นเนื่องจากการปั่นจักรยานเป็นการขับเหงื่อให้ออกไปจากร่างกาย
วันที่ 27 มค. พวกเราปั่นจักรยานมาที่ตัวเมืองสกลนคร ระยะทาง 54 กม. แวะให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุคนเสื้อแดง FM 106 จากนั้นนักปั่นเส้นทางสีแดงได้ร่วมแรลลี่รอบเมืองกับพี่น้องเสื้อแดงสกลนคร ตอจากนั้นได้ไปสักการะพระธาตุเชิงชุมและเข้าที่พักซึ่งเป็นบ้านของดต. วิทยา (ประธานนปช สกลนคร) ที่นี่ได้ทำเป็นศูนย์ประสานงานนปช.แดงสกลนคร กลางคืนมีงานสังสรรค์มีคนเสื้อแดงมาร่วมจำนวนมาก จากการสนทนากับแกนนำสกลนครพบว่าีที่นี่มีการรวมตัวกันอย่างเข้มแข็ง แกนนำบางท่านเป็นถึงรองผู้การค่ายทหารที่เพิ่งจะเกษียนและออกมาเป็นคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวอย่างเต็มตัว สกลนครในอดีตเป็นพื้นที่สีแดง ชาวบ้านมีการตื่นตัวด้านการเมืองและมีเลือดนักสู้เพื่อประชาธิปไตยมายาวนาน เมื่อปลายเดือนพย.53 ผมเคยมาที่นี่และไปดูสถานที่ที่คุณจิตร ภูมิศักดิ์ถูกยิงเสียชีวิตที่บ้านหนองกุง อ.วาริชภูมิ
http://www.youtube.com/watch?v=z7LBbyaDg5o
http://www.youtube.com/watch?v=SZ2AQDIgHvs
เช้าวันที่ 28 มค.มีนักปั่นจากสกลนครเดินทางมาจากอ.อากาศอำนวยเข้ามาสมทบอีก 3 ท่าน ทั้งหมดเป็นข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุทำให้ขบวนปั่นจักรยานมีความคึกคักและมีชีวิตชีวามากขึ้น ประธานนปช.สกลนครได้นำพวกเราปั่นจักรยานมาถึงอ.โคกศรีสุพรรณในเวลา 10 โมงเช้า รับมอบเงินบริจาคจากพี่น้องเสื้อแดงที่มารอต้อนรับจำนวน 1,000 บาท จากนั้นได้แวะทักทายคนเสื้อแดงที่ตลาดโคกศรีสุพรรณ ชาวบ้านเปิดเพลงรักคนเสื้อแดงและร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนาน พวกเราได้แวะถ่ายภาพและคลิปวีดีโอไว้เป็นที่ระลึก เวลา 11 โมงได้ออกเดินทางต่อไปที่อ.นาแก มีชาวบ้านที่ทราบข่าวมาแวะรอให้น้ำกลางทางและร่วมบริจาคเงินสมทบพร้อมกับเป็นเจ้าภาพอาหารมือเที่ยง
http://www.youtube.com/watch?v=dg7KOJmx5AQ
http://www.youtube.com/watch?v=ohUNbmyLKug
http://www.youtube.com/watch?v=nEJ4OtZGMfk
หลังมื้อเที่ยงพวกเราร่ำลากับพี่น้องสกลนครที่นี่ จากนั้นได้ออกปั่นจักรยานมุ่งหน้าอ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยมีจุดนัดหมายที่วัดพระธาตพนมซึ่งกำลังมีงานประจำปี ที่นี่พวกเราพบผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม 1 ราย ชื่อคุณศุภฤกษ์ ทากิระ ถูกยิงที่ท้ายทอย กระสุนทะลุข้างแก้ม คุณศุกฤกษ์ได้ลงรับสมัครการเมืองท้องถิ่นและได้นำหลักฐานการถูกยิงและการรักษาพยาบาลมาให้เป็นหลักฐาน พวกเราได้มอบเงินบริจาคจำนวน 1,000 บาท และได้ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน
http://www.youtube.com/watch?v=K147HRXhPao
เวลา 5 โมงเย็นได้พบกับพี่น้องเสื้อแดงนครพนม คุณวีระชัย (รองประธานนปช.นครพนม) และคณะได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารเย็นที่ร้านอาหารติดกับแม่น้ำโขง หลังรับประทานอาหารพวกเราได้ถ่ายภาพร่วมกันริมแม่น้ำโขงเป็นที่ระลึก คุณวีระชัยได้ขอให้เส้นทางสีแดงมาเยี่ยมพี่น้องเสื้อแดงที่อ.เมืองนครพนมในครั้งหน้า และได้บอกกับพวกเราว่าที่นครพนมมีสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 ที่เพิ่งจะเปิดไม่นาน สามารถเดินทางข้ามไปฝั่งลาวได้ ผมได้รับปากว่าจะพาเส้นทางสีแดงมาเยี่ยมพี่น้องเสื้อแดงในตัวเมืองนครพนมในหน้าหนาวที่จะถึงนี้
เช้าวันที่ 25 มค.พวกเราได้ปั่นจักรยานไปจ.บึงกาฬซึ่งเป็นจังหวัดเกิดใหม่จังหวัดที่ 77 ที่แยกตัวออกมาจากจ.หนองคาย ได้เข้าพักที่วัดแห่งหนึ่งติดแม่น้ำโขง คืนนั้นต้องอาบน้ำท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ กลางคืนกางเตนท์นอนหน้ากุฏิเจ้าอาวาสบนพื้นที่แข็งกระด้างและเย็นจับใจทำให้อาการไข้กำเริบขึ้นอีกครั้ง
เช้าวันถัดมาพวกเราปั่นจักรยานไปอ.ศรีวิไล แกนนำชาวบ้านได้พาพวกเราไปเยี่ยมครอบครัวของคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำหลังการเลือกตั้งปี 2554 พวกเราได้เข้าไปที่บ้านเล็กๆหลังหนึ่งและเข้าไปนั่งสนทนากันในห้องนอนของผู้ตาย มีรูปของพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตรขนาดสูง 2.5 เมตรแต่งกายด้วยเครื่องราชอิสริยาภรณ์ติดอยู่ข้างประตูห้อง ชาวบ้านเล่าว่าผู้ตายชื่อนางพวงจันทร์ ถานโอฬาร อายุ 44 ปี มีอาชีพเป็นอาสาสมัครอพปร. (อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน) มีบุตร 3 คน คนโตเป็นชายทำงานในกรุงเทพ คนกลางและคนเล็กเป็นหญิงต้องอาศัยอยู่กับย่าซึ่งเป็นคนเสื้อเหลือง ความสัมพันธ์ระหว่างย่าและหลานทั้งสองไม่ดีนักเนื่องจากความขัดแย้งของอุดมการณ์ต่างสีเสื้อ
ชาวบ้านเล่าว่าก่อนเสียชีวิตผู้ตายเป็นคนเสื้อแดงและรักนายกทักษิณมาก ได้ช่วยกันรณรงค์หาเสียงให้กับผู้สมัครสส.พรรคเพื่อไทยโดยไม่ได้รับการว่าจ้างหรือไหว้วาน ผู้ตายเสียชีวิตจากการถูกของแข็งกระแทกเข้าที่ท้ายทอยในวันที่ 20 กย.2554 ก่อนเสียชีวิตผู้ตายกำลังสนทนาโทรศัพท์กับแกนนำคนเสื้อแดงและได้ยินเสียงผู้ตายมีปากเสียงกับคนร้าย ต่อมาเสียงก็ขาดหายไป สันนิฐานว่าถูกคนร้ายใช้ของแข็งตีเข้าที่ท้ายทอยและหลบหนี เมื่อชาวบ้านมาพบได้นำตัวส่งโรงพยาลแต่ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ทัน
พวกเราได้มอบเงินบริจาคให้กับบุตรสาวของผู้เสียชีวิตเป็นเงิน 1,000 บาทและถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึก (หากท่านใดประสงค์จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือเด็กทั้งสองคนกรุณาติดต่อโดยตรงที่ นส.นงคราญ ถานโอฬาร หรือน้องอ้น ที่อยู่ 93 ม.12 บ้านศรีวิไลพัฒนา อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ 83210 เบอร์โทร 087-1984282) คืนนั้นได้พักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งที่เจ้าของเป็นคนเสื้อแดง และเคยรู้จักกันเมื่อครั้งผมเคลื่อนไหวอยู่ในแคมฟร้อก
เช้าวันที่ 26 มค. พวกเราได้ปั่นจักรยานมุ่งหน้าสกลนคร อ.พังโคน ระยะทาง 128 กม. ที่สกลนครเส้นทางสีแดงจะแวะทำกิจกรรมที่อ.พังโคน และอ.เมือง ผู้ประสานงานคือคุณพราหมณ์ศักดิ์รพี จนถึงเย็นวันนั้นพวกเราได้ปั่นจักรยานออกจากราชประสงค์ด้วยระยะทางกว่า 1,447 กม.หรือเกินกว่าครึ่งของระยะทางทั้งหมด อาการไข้ของผมเริ่มดีขึ้นเนื่องจากการปั่นจักรยานเป็นการขับเหงื่อให้ออกไปจากร่างกาย
วันที่ 27 มค. พวกเราปั่นจักรยานมาที่ตัวเมืองสกลนคร ระยะทาง 54 กม. แวะให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุคนเสื้อแดง FM 106 จากนั้นนักปั่นเส้นทางสีแดงได้ร่วมแรลลี่รอบเมืองกับพี่น้องเสื้อแดงสกลนคร ตอจากนั้นได้ไปสักการะพระธาตุเชิงชุมและเข้าที่พักซึ่งเป็นบ้านของดต. วิทยา (ประธานนปช สกลนคร) ที่นี่ได้ทำเป็นศูนย์ประสานงานนปช.แดงสกลนคร กลางคืนมีงานสังสรรค์มีคนเสื้อแดงมาร่วมจำนวนมาก จากการสนทนากับแกนนำสกลนครพบว่าีที่นี่มีการรวมตัวกันอย่างเข้มแข็ง แกนนำบางท่านเป็นถึงรองผู้การค่ายทหารที่เพิ่งจะเกษียนและออกมาเป็นคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวอย่างเต็มตัว สกลนครในอดีตเป็นพื้นที่สีแดง ชาวบ้านมีการตื่นตัวด้านการเมืองและมีเลือดนักสู้เพื่อประชาธิปไตยมายาวนาน เมื่อปลายเดือนพย.53 ผมเคยมาที่นี่และไปดูสถานที่ที่คุณจิตร ภูมิศักดิ์ถูกยิงเสียชีวิตที่บ้านหนองกุง อ.วาริชภูมิ
http://www.youtube.com/watch?v=z7LBbyaDg5o
http://www.youtube.com/watch?v=SZ2AQDIgHvs
เช้าวันที่ 28 มค.มีนักปั่นจากสกลนครเดินทางมาจากอ.อากาศอำนวยเข้ามาสมทบอีก 3 ท่าน ทั้งหมดเป็นข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุทำให้ขบวนปั่นจักรยานมีความคึกคักและมีชีวิตชีวามากขึ้น ประธานนปช.สกลนครได้นำพวกเราปั่นจักรยานมาถึงอ.โคกศรีสุพรรณในเวลา 10 โมงเช้า รับมอบเงินบริจาคจากพี่น้องเสื้อแดงที่มารอต้อนรับจำนวน 1,000 บาท จากนั้นได้แวะทักทายคนเสื้อแดงที่ตลาดโคกศรีสุพรรณ ชาวบ้านเปิดเพลงรักคนเสื้อแดงและร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนาน พวกเราได้แวะถ่ายภาพและคลิปวีดีโอไว้เป็นที่ระลึก เวลา 11 โมงได้ออกเดินทางต่อไปที่อ.นาแก มีชาวบ้านที่ทราบข่าวมาแวะรอให้น้ำกลางทางและร่วมบริจาคเงินสมทบพร้อมกับเป็นเจ้าภาพอาหารมือเที่ยง
http://www.youtube.com/watch?v=dg7KOJmx5AQ
http://www.youtube.com/watch?v=ohUNbmyLKug
http://www.youtube.com/watch?v=nEJ4OtZGMfk
หลังมื้อเที่ยงพวกเราร่ำลากับพี่น้องสกลนครที่นี่ จากนั้นได้ออกปั่นจักรยานมุ่งหน้าอ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยมีจุดนัดหมายที่วัดพระธาตพนมซึ่งกำลังมีงานประจำปี ที่นี่พวกเราพบผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม 1 ราย ชื่อคุณศุภฤกษ์ ทากิระ ถูกยิงที่ท้ายทอย กระสุนทะลุข้างแก้ม คุณศุกฤกษ์ได้ลงรับสมัครการเมืองท้องถิ่นและได้นำหลักฐานการถูกยิงและการรักษาพยาบาลมาให้เป็นหลักฐาน พวกเราได้มอบเงินบริจาคจำนวน 1,000 บาท และได้ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน
http://www.youtube.com/watch?v=K147HRXhPao
เวลา 5 โมงเย็นได้พบกับพี่น้องเสื้อแดงนครพนม คุณวีระชัย (รองประธานนปช.นครพนม) และคณะได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารเย็นที่ร้านอาหารติดกับแม่น้ำโขง หลังรับประทานอาหารพวกเราได้ถ่ายภาพร่วมกันริมแม่น้ำโขงเป็นที่ระลึก คุณวีระชัยได้ขอให้เส้นทางสีแดงมาเยี่ยมพี่น้องเสื้อแดงที่อ.เมืองนครพนมในครั้งหน้า และได้บอกกับพวกเราว่าที่นครพนมมีสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 ที่เพิ่งจะเปิดไม่นาน สามารถเดินทางข้ามไปฝั่งลาวได้ ผมได้รับปากว่าจะพาเส้นทางสีแดงมาเยี่ยมพี่น้องเสื้อแดงในตัวเมืองนครพนมในหน้าหนาวที่จะถึงนี้