28 November 2011 at 12:45
กิจกรรมนี้จัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 พย.2554 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีได้บริหารประเทศท่ามกลางวิกฤตมหาอุทกภัยที่รุมเร้า รูปแบบการจัดกิจกรรมคือการแรลลี่ทั่วกรุงเทพมหานครและชุมนุมปราศัยในช่วงเย็นที่ศาลาแดง
พวกเราเดินทางมาถึงราชประสงค์ในเวลา 9.00 น.พบว่ามีคนเสื้อแดงมาส่วนมารออยู่แล้ว 9.30 น.มีครอบครัวของวีรชนที่เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมมาตั้งโต๊ะเพื่อให้คนเสื้อแดงได้จุดธุปและทำบุญบริจาค 10.00 น.ได้รับแจ้งจากพี่น้องเสื้อแดงที่เดินทางมาจากอุดรว่าคุณขวัญชัย ไพรพนาและอีกหลายองค์กรได้นำพี่น้องเสื้อแดงจากอุดรเดินทางมาถึงรัฐสภาตั้งแต่เช้าหลายร้อยคน รถบัส 5 คันและรถ10 ล้อสองคัน คนเสื้อแดงทยอยนำรถทุกชนิดมาร่วมขบวนแรลลี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจมาประสานงานเส้นทางที่จะเคลื่อนขบวน ในเวลาประมาณ 11.00 น.คนเสื้อแดงมาทยอยมาชุมนุมหลายร้อยคน มีผู้นำรถโมบายเปิดเพลงคนเสื้อแดงเต้นรำหน้าเวิลด์เทรดเป็นที่สนุกสนาน ก่อนออกขบวนผมได้รับการประสานจากพรรคเพื่อไทยให้นำขบวนแรลลี่ไปมอบดอกไม้ให้กำลังใจนายกได้ที่รัฐสภา
เที่ยงตรงขบวนแรลลี่เส้นทางสีแดงได้เคลื่อนขบวนจากราชประสงค์ ไปตามเส้นทางกำหนดไว้ ผ่านถ.เพชรบุรี คลองตัน รามคำแหง บางกะปิ ลาดพร้าว และจอดตั้งขบวนที่ใต้ทางด่วนอิมพีเรียลลาดพร้าวในเวลา 13.00 น.เนื่องจากมีคนเสื้อแดงนำรถมาร่วมขบวนแรลลี่จำนวนมาก บางส่วนเกิดการพลัดหลงไปที่ทำการพรรคบ้าง อนุเสาวรีย์ชัยบ้าง ศาลาแดงบ้าง ทำให้ต้องตั้งขบวนใหม่อีกครั้ง ระหว่างที่รอตั้งขบวนใหม่ผู้เข้าร่วมแรลลี่ได้เปิดเพลงคนเสื้อแดงและจับกลุ่มเต้นรำอยู่ใต้ทางด่วนเป็นที่สนุกสนาน
ขบวนเคลื่อนที่อีกครั้งในเวลา 13.30 น.มุ่งหน้าที่ทำการอาคารรัฐสภา ถึงอาคารัฐสภาในเวลาประมาณ 15.00 น.ทันทีที่ขบวนแรลลี่เดินทางมาถึงหน้าอาคารรัฐสภาได้รับเสียงปรบมือให้กำลังใจจากคนเสือแดงที่ชุมนุมที่หน้าสภา ระหว่างรอการประสานงานกับรัฐบาลผมได้ขึ้นเวทีของสถานีวิทยุเรือนไทยวีดีโอกล่าวคำทักทายพี่น้องเสื้อแดงชาวอุดรและกรุงเทพที่มารอร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ พร้อมได้กล่าวเชิญชวนพี่น้องเสื้อแดงให้ร่วมกันปกป้องรัฐบาลของประชาชน จากนั้นได้กล่าวที่กิจกรรมเส้นทางสีแดงที่ผ่านมา สิ่งที่เส้นทางสีแดงได้ทำเพื่อผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมและผู้ประสพอุทกภัย และได้กล่าวถึงกิจกรรมเส้นทางสีแดงเพื่อสันติภาพ (Red Path for Peace)
ผมกล่าวว่ากิจกรรมเส้นทางสีแดงเพื่อสันติภาพจะเดินทางไปกัมพูชาในเดือนมค.2555 โดยจะเดินทางผ่านอีสานทุกจังหวัดแวะเยี่ยมเยียนพี่น้องเสื้อแดงและครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะครอบครัววีรชน จากนั้นจะเข้ากัมพูชาผ่านทางเขาพระวิหารซึ่งเป็นจุดที่เปราะบางทางการเมือง และจะไปจับมือกับทหารกัมพูชาในบริเวณเขาพระวิหาร เพื่อส่งสัญญาณถึงคนไทยและชาวโลกว่าในขณะที่คนเสื้อเหลืองคลั่งชาติและก่อสงคราม แต่คนเสื้อแดงเป็นคนที่รักประชาธิปไตยและรักสันติภาพ ฯลฯ สร้างความพอใจและเรียกเสียงปรบมือให้กำลังใจจากพี่น้องเสื้อแดงอย่างมาก
เลขาธิการนายักรัฐมนตรีได้เป็นตัวแทนออกมารับมอบช่อดอกไม้ในเวลาประมาณ 15.30 น. ผมและรอ.ปรีชา นักปั่นอาวุโสได้ร่วมกันมอบช่อดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่นายกรัฐมนตรีและพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก และได้กล่าวให้กำลังใจสั้นๆว่า “พวกเราเป็นตัวแทนของคนเสื้อแดงที่เดินทางมาจากทั่วประเทศเพื่อมาให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีในการบริหารประเทศและให้กำลังใจพล.ต.อ.ประชาเพื่อสู้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ประชาชนพร้อมที่จะออกมาปกป้องรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง” ในขณะที่มอบช่อดอกไม้นั้นบรรยากาศเป็นไปอย่างน่ากระทับใจที่สุด คนเสื้อแดงเบียดเสียดกันอย่างเนื่องแน่นเพื่อที่จะร่วมมอบดอกไม้ สื่อมวลชนได้ถ่ายรูปเพื่อนำไปลงข่าว มีพี่น้องเสื้อแดงเข้ามาถ่ายรูปกับกระเช้าดอกไม้และตัวแทนนายกรัฐมนตรีเป็นจำนวนมาก
พวกเราเคลื่อนขบวนแรลลี่อีกครั้งในเวลา 16.00 น.โดยไปตั้งขบวนใหม่ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า และเคลื่อนขบวนไปวงเวียนใหญ่ผ่านถ.จรัลสนิทวงศ์มุ่งหน้าอนุเสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช ขบวนแรลลี่วนซ้ายทำทักษินาวัตรสามรอบ และมุ่งหน้าไปสะพานปิ่นเกล้า และถึงลานอนุเสาวรีย์ร.6 ในเวลาประมาณ 17.30 น.มีคนเสื้อแดงนับร้อยคนมารอร่วมทำกิจกรรมอยู่ก่อนแล้ว
เกิดเหตุขัดข้องเล็กน้อยเนื่องจากคุณภรค เฉลิมแสนไม่สามารถมาร่วมปราศัยได้เนื่องจากที่รังสิตมีการปิดถนนของประชาชนที่เดือดร้อนจากน้ำท่วมเพื่อที่จะรื้อบิ้กแบ็คทำให้การจราจรติดขัดมาก ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการนำรถโมบายมาตั้งเป็นเวทีปราศัยและได้รับเกียรติจากอ.ตุ้มมาเป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องกฏหมายแก่พี่น้องเสื้อแดง โดยมุ่งไปที่ประเด็นคำพิพากษาคดีของอากง sms ที่ถูกจำคุก 20 ปี
ในเวลาประมาณ 19.00 น.ผมได้ขึ้นเวทีและกล่าวขอบคุณผู้เข้าร่วมกิจกรรมพร้อมกับได้บอกเล่าถึงผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมที่พวกเราไปเยี่ยมเยียนมา และได้เล่าเรื่องของคุณเกียรติศักดิ์ที่ถูกแก๊สน้ำตาจนตาบอดในวันที่ 10 เมย.เรื่องของเด็กกำพร้าที่บิดาถูกทหารยิงเสียชีวิตที่เราปั่นจักรยานไปถึงเวียงจันทร์เพื่อนำเงินบริจาคมาให้ที่จังหวัดหนองคายในวันเดียวกัน พร้อมกับบอกเล่าถึงความสูญเสียของบุคคลเหล่านี้ พร้อมกันนี้ได้ถือโอกาสชี้แจงข้อข้องใจกรณีที่มีข่าวปล่อยเกี่ยวกับกิจกรรมเส้นทางสีแดงมาอย่างต่อเนื่อง
ในเวลา 20.00 น.พวกเราได้ร่วมกันจุดเทียนเพื่อรำลึกถึงวีรชนที่เสียชิวิตในเหตุการณ์ 10 เมย.และ 13-19 พย.2553 ในจุดที่เสธแดงถูกยิงเสียชิวิต พวกเราได้ร่วมกันร้องเพลงนักสู้ธุลีดินและยืนไว้อาลัยอย่างสงบนิ่ง คำพูดทิ้งท้ายของกิจกรรมนี้คือ .. ขอให้อุดมการณ์ ความเข้มแข็ง และความเสียสละจงอยู่กับพี่น้องเสื้อแดงตลอดไป.
หมายเหตุ : กิจกรรมนี้ประสพความสำเร็จมากส่วนหนึ่งอาจจะมาจากเป้าหมายของกิจกรรมที่ถูกจังหวะกับสถานการณ์ทางการเมือง รวมถึงการประสานงานกับพรรคเพื่อไทยและเจ้าหน้าที่ตำรวจล่วงหน้า แต่ในขณะที่จำนวนผู้เข้าร่วมแรลลี่มีมากปัญหาที่เกิดขึ้นคือมีผู้เข้าร่วมแรลลี่บางส่วนไม่ทราบเส้นทางที่จะแรลลี่ ประกอบกับมีผู้เข้าร่วมแรลลี่บางคนพยายามที่จะนำขบวนลัดเส้นทางไปตามใจชอบ ทำให้เกิดปัญหาการพลัดหลงและต้องนัดกันตั้งขบวนใหม่ กิจกรรมครั้งถัดไปอาจจัดให้มีการแจกใบปลิวที่ระบุเส้นทางแรลลี่และแบ่งจุดนัดหมายออกเป็นช่วงๆ กิจกรรมนี้อาจมีการจัดอีกครั้งเร็วๆนี้เพื่อเป็นการให้กำลังใจรัฐบาลโดยมีเป้าหมายหลักคือการเรียกร้องให้รัฐบาลนำพ.ต.ท.ทักษิน ชินวัตรกลับเมืองไทยโดยเร็ว
พวกเราเดินทางมาถึงราชประสงค์ในเวลา 9.00 น.พบว่ามีคนเสื้อแดงมาส่วนมารออยู่แล้ว 9.30 น.มีครอบครัวของวีรชนที่เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมมาตั้งโต๊ะเพื่อให้คนเสื้อแดงได้จุดธุปและทำบุญบริจาค 10.00 น.ได้รับแจ้งจากพี่น้องเสื้อแดงที่เดินทางมาจากอุดรว่าคุณขวัญชัย ไพรพนาและอีกหลายองค์กรได้นำพี่น้องเสื้อแดงจากอุดรเดินทางมาถึงรัฐสภาตั้งแต่เช้าหลายร้อยคน รถบัส 5 คันและรถ10 ล้อสองคัน คนเสื้อแดงทยอยนำรถทุกชนิดมาร่วมขบวนแรลลี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจมาประสานงานเส้นทางที่จะเคลื่อนขบวน ในเวลาประมาณ 11.00 น.คนเสื้อแดงมาทยอยมาชุมนุมหลายร้อยคน มีผู้นำรถโมบายเปิดเพลงคนเสื้อแดงเต้นรำหน้าเวิลด์เทรดเป็นที่สนุกสนาน ก่อนออกขบวนผมได้รับการประสานจากพรรคเพื่อไทยให้นำขบวนแรลลี่ไปมอบดอกไม้ให้กำลังใจนายกได้ที่รัฐสภา
เที่ยงตรงขบวนแรลลี่เส้นทางสีแดงได้เคลื่อนขบวนจากราชประสงค์ ไปตามเส้นทางกำหนดไว้ ผ่านถ.เพชรบุรี คลองตัน รามคำแหง บางกะปิ ลาดพร้าว และจอดตั้งขบวนที่ใต้ทางด่วนอิมพีเรียลลาดพร้าวในเวลา 13.00 น.เนื่องจากมีคนเสื้อแดงนำรถมาร่วมขบวนแรลลี่จำนวนมาก บางส่วนเกิดการพลัดหลงไปที่ทำการพรรคบ้าง อนุเสาวรีย์ชัยบ้าง ศาลาแดงบ้าง ทำให้ต้องตั้งขบวนใหม่อีกครั้ง ระหว่างที่รอตั้งขบวนใหม่ผู้เข้าร่วมแรลลี่ได้เปิดเพลงคนเสื้อแดงและจับกลุ่มเต้นรำอยู่ใต้ทางด่วนเป็นที่สนุกสนาน
ขบวนเคลื่อนที่อีกครั้งในเวลา 13.30 น.มุ่งหน้าที่ทำการอาคารรัฐสภา ถึงอาคารัฐสภาในเวลาประมาณ 15.00 น.ทันทีที่ขบวนแรลลี่เดินทางมาถึงหน้าอาคารรัฐสภาได้รับเสียงปรบมือให้กำลังใจจากคนเสือแดงที่ชุมนุมที่หน้าสภา ระหว่างรอการประสานงานกับรัฐบาลผมได้ขึ้นเวทีของสถานีวิทยุเรือนไทยวีดีโอกล่าวคำทักทายพี่น้องเสื้อแดงชาวอุดรและกรุงเทพที่มารอร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ พร้อมได้กล่าวเชิญชวนพี่น้องเสื้อแดงให้ร่วมกันปกป้องรัฐบาลของประชาชน จากนั้นได้กล่าวที่กิจกรรมเส้นทางสีแดงที่ผ่านมา สิ่งที่เส้นทางสีแดงได้ทำเพื่อผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมและผู้ประสพอุทกภัย และได้กล่าวถึงกิจกรรมเส้นทางสีแดงเพื่อสันติภาพ (Red Path for Peace)
ผมกล่าวว่ากิจกรรมเส้นทางสีแดงเพื่อสันติภาพจะเดินทางไปกัมพูชาในเดือนมค.2555 โดยจะเดินทางผ่านอีสานทุกจังหวัดแวะเยี่ยมเยียนพี่น้องเสื้อแดงและครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะครอบครัววีรชน จากนั้นจะเข้ากัมพูชาผ่านทางเขาพระวิหารซึ่งเป็นจุดที่เปราะบางทางการเมือง และจะไปจับมือกับทหารกัมพูชาในบริเวณเขาพระวิหาร เพื่อส่งสัญญาณถึงคนไทยและชาวโลกว่าในขณะที่คนเสื้อเหลืองคลั่งชาติและก่อสงคราม แต่คนเสื้อแดงเป็นคนที่รักประชาธิปไตยและรักสันติภาพ ฯลฯ สร้างความพอใจและเรียกเสียงปรบมือให้กำลังใจจากพี่น้องเสื้อแดงอย่างมาก
เลขาธิการนายักรัฐมนตรีได้เป็นตัวแทนออกมารับมอบช่อดอกไม้ในเวลาประมาณ 15.30 น. ผมและรอ.ปรีชา นักปั่นอาวุโสได้ร่วมกันมอบช่อดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่นายกรัฐมนตรีและพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก และได้กล่าวให้กำลังใจสั้นๆว่า “พวกเราเป็นตัวแทนของคนเสื้อแดงที่เดินทางมาจากทั่วประเทศเพื่อมาให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีในการบริหารประเทศและให้กำลังใจพล.ต.อ.ประชาเพื่อสู้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ประชาชนพร้อมที่จะออกมาปกป้องรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง” ในขณะที่มอบช่อดอกไม้นั้นบรรยากาศเป็นไปอย่างน่ากระทับใจที่สุด คนเสื้อแดงเบียดเสียดกันอย่างเนื่องแน่นเพื่อที่จะร่วมมอบดอกไม้ สื่อมวลชนได้ถ่ายรูปเพื่อนำไปลงข่าว มีพี่น้องเสื้อแดงเข้ามาถ่ายรูปกับกระเช้าดอกไม้และตัวแทนนายกรัฐมนตรีเป็นจำนวนมาก
พวกเราเคลื่อนขบวนแรลลี่อีกครั้งในเวลา 16.00 น.โดยไปตั้งขบวนใหม่ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า และเคลื่อนขบวนไปวงเวียนใหญ่ผ่านถ.จรัลสนิทวงศ์มุ่งหน้าอนุเสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช ขบวนแรลลี่วนซ้ายทำทักษินาวัตรสามรอบ และมุ่งหน้าไปสะพานปิ่นเกล้า และถึงลานอนุเสาวรีย์ร.6 ในเวลาประมาณ 17.30 น.มีคนเสื้อแดงนับร้อยคนมารอร่วมทำกิจกรรมอยู่ก่อนแล้ว
เกิดเหตุขัดข้องเล็กน้อยเนื่องจากคุณภรค เฉลิมแสนไม่สามารถมาร่วมปราศัยได้เนื่องจากที่รังสิตมีการปิดถนนของประชาชนที่เดือดร้อนจากน้ำท่วมเพื่อที่จะรื้อบิ้กแบ็คทำให้การจราจรติดขัดมาก ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการนำรถโมบายมาตั้งเป็นเวทีปราศัยและได้รับเกียรติจากอ.ตุ้มมาเป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องกฏหมายแก่พี่น้องเสื้อแดง โดยมุ่งไปที่ประเด็นคำพิพากษาคดีของอากง sms ที่ถูกจำคุก 20 ปี
ในเวลาประมาณ 19.00 น.ผมได้ขึ้นเวทีและกล่าวขอบคุณผู้เข้าร่วมกิจกรรมพร้อมกับได้บอกเล่าถึงผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมที่พวกเราไปเยี่ยมเยียนมา และได้เล่าเรื่องของคุณเกียรติศักดิ์ที่ถูกแก๊สน้ำตาจนตาบอดในวันที่ 10 เมย.เรื่องของเด็กกำพร้าที่บิดาถูกทหารยิงเสียชีวิตที่เราปั่นจักรยานไปถึงเวียงจันทร์เพื่อนำเงินบริจาคมาให้ที่จังหวัดหนองคายในวันเดียวกัน พร้อมกับบอกเล่าถึงความสูญเสียของบุคคลเหล่านี้ พร้อมกันนี้ได้ถือโอกาสชี้แจงข้อข้องใจกรณีที่มีข่าวปล่อยเกี่ยวกับกิจกรรมเส้นทางสีแดงมาอย่างต่อเนื่อง
ในเวลา 20.00 น.พวกเราได้ร่วมกันจุดเทียนเพื่อรำลึกถึงวีรชนที่เสียชิวิตในเหตุการณ์ 10 เมย.และ 13-19 พย.2553 ในจุดที่เสธแดงถูกยิงเสียชิวิต พวกเราได้ร่วมกันร้องเพลงนักสู้ธุลีดินและยืนไว้อาลัยอย่างสงบนิ่ง คำพูดทิ้งท้ายของกิจกรรมนี้คือ .. ขอให้อุดมการณ์ ความเข้มแข็ง และความเสียสละจงอยู่กับพี่น้องเสื้อแดงตลอดไป.
หมายเหตุ : กิจกรรมนี้ประสพความสำเร็จมากส่วนหนึ่งอาจจะมาจากเป้าหมายของกิจกรรมที่ถูกจังหวะกับสถานการณ์ทางการเมือง รวมถึงการประสานงานกับพรรคเพื่อไทยและเจ้าหน้าที่ตำรวจล่วงหน้า แต่ในขณะที่จำนวนผู้เข้าร่วมแรลลี่มีมากปัญหาที่เกิดขึ้นคือมีผู้เข้าร่วมแรลลี่บางส่วนไม่ทราบเส้นทางที่จะแรลลี่ ประกอบกับมีผู้เข้าร่วมแรลลี่บางคนพยายามที่จะนำขบวนลัดเส้นทางไปตามใจชอบ ทำให้เกิดปัญหาการพลัดหลงและต้องนัดกันตั้งขบวนใหม่ กิจกรรมครั้งถัดไปอาจจัดให้มีการแจกใบปลิวที่ระบุเส้นทางแรลลี่และแบ่งจุดนัดหมายออกเป็นช่วงๆ กิจกรรมนี้อาจมีการจัดอีกครั้งเร็วๆนี้เพื่อเป็นการให้กำลังใจรัฐบาลโดยมีเป้าหมายหลักคือการเรียกร้องให้รัฐบาลนำพ.ต.ท.ทักษิน ชินวัตรกลับเมืองไทยโดยเร็ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น