ตอน 3 เยี่ยมคนเสื้อแดงชลบุรี - บางแสน พัทยา
หลังจากเสร็จสิ้นการเยี่ยมคุณแม่วีรชน วสันต์ ภู่ทองแล้ว พวกเราแวะไปถายรูปที่บางปุซึ่งอยุ่ในเส้นทางขากลับเข้าสมุทรปราการ และไปพักที่บ้านของเสธดำแถวพระประแดง มีการสังสรรค์กันเล็กน้อยเพื่อเปิดโอกาสให้นักปั่นได้แนะนำตัวและทำความรู้จักกัน เย็นนั้นสถานี Asia Update นำข่าวการเยี่ยมครอบครัววีรชนมาเผยแพร่ในช่วงข่าวหนึ่งทุ่ม พวกเราร่วมกันชมด้วยความภูมิใจว่ากิจกรรมวันแรกเป็นข่าวไปทั่วประเทศ
เช้าวันที่ 2 ของกิจกรรม เป้าหมายอยู่ที่บางแสน ระยะทาง 71 กม. ก่อนออกเดินทางพวกเรานำรถจักรยานทุกคันไปตรวจความเรียบร้อย ทำการเปลี่ยนยางอะไหล่ ปรับแต่งเกียร์ เบรค ให้เข้าที่ รถจักรยานทุกคันจะต้องอยู่ในสภาพพร้อมเดินทางไกลข้ามประเทศ
พวกเราเริ่มออกเดินทางในเวลา 10 โมงเช้า ถนนบางนา-ตราดในเช้าวันจันทร์รถหนาแน่น พวกเราต้องปั่นจักรยานชิดซ้ายและต้องระวังรถบรรทุกที่ขับด้วยความเร็วและต้องทนกับกลิ่นควันจากท่อไอเสีย บรรยากาศเป็นเช่นนี้แทบทั้งวัน พวกเราถึงบางแสนในเวลาเย็น เดิมทีตั้งใจว่าจะปั่นจักยานรอบหาดบางแสนแต่ปรากฏว่าเมื่อถึงทางลงหาดบางแสนฝนได้เทลงมาอย่างหนัก พวกเราต้องแวะหลบฝนข้างทาง
กิจกรรมที่บางแสนประสานงานโดยคุณ Win Puston และคุณ New Red Sunday จากเฟสบุ้ค มีครูอ้อแกนนำบางแสนเป็นผู้ให้การต้อนรับ พวกเราเดินทางถึงบ้านพักในเวลาเกือบค่ำ คนเสื้อแดงหลายคนรอต้อนรับนักปั่นเส้นทางสีแดงที่ปากประตูด้วยแป้งเหมือนกับเทศกาลสงกรานต์ เป็นบรรยากาศที่น่ารักและเป็นกันเอง
เย็นวันนั้นมีเวทีเล็กๆในบ้าน ผมคิดว่าบรรยากาศกาศต้อนรับวันนั้นเป็นวันที่ประทับใจที่สุดวันหนึ่ง มีคนเสื้อแดงหลายกลุ่มนำอาหารมาร่วมงานซึ่งล้วนแต่น่ารับประทาน คุณ New Red Sunday นำหมูย่างเมืองตรังทั้งตัวมาเป็นของฝาก ผมไม่ได้มีโอกาสชิมอาหารรสเลิศมากเท่าไหร่นักเพราะต้องตอบคำถามเกี่ยวกับกิจกรรมที่ผ่านมา โดยเฉพาะการขึ้นเวทีคนไทยหัวใจรักชาติในปี 2554
ตอนที่ขึ้นเวที ผมได้กล่าวแนะนำกิจกรรมเส้นทางสีแดงและได้สนับสนุนการเคลื่อนไหวของเสรีชนที่่ยึดอุดมการณ์เป็นหลัก และที่สำคัญได้ย้ำว่าเสรีชนที่รักประชาธิปไตยควรมีโอกาสในการแสดงออกทางความคิดโดยไม่ต้องกังวลกับคำว่าแดงแท้หรือแดงเทียม ผมไม่รู้ว่าคำกล่าวนั้นจะทำให้คนเสื้อแดงในงานรู้สึกอย่างไร ผมคิดแต่เพียงว่าควรทำความเข้าใจกับคนเสื้อแดงให้มีความมั่นใจในการแสดงออกตราบเท่าที่ไม่ขัดกับอุดมการณ์ประชาธิปไตย
เช้าวันถัดมาพวกเราออกเดินทางต่อไปยังพัทยา ระยะทางจากบางแสนไปพัทยาคือ 90 กม. พวกเราแวะสวนสาธารณะบางพระในช่วงสาย แวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับพี่น้องเสื้อแดงชมรมรักษ์ประชาธิปไตยแหลมฉบัง จากนั้นมุ่งหน้าพัทยา แวะพักทานอาหารเที่ยงที่หน้า Lotus ศรีราชา
แดดในวันนั้นแรงมาก พวกเราต้องปั่นจักรยานตากแดดตลอดวัน ช่วงบ่ายมีฝนตกหนักทำให้ต้องแวะจอดพักข้างทาง กว่าจะถึงหน้าศาลาว่าการเมืองพัทยาซึ่งเป็นสถานที่นัดหมายเกือบ 5 โมง จากนั้นเข้าที่พักบริเวณสโมสรร่มบินพัทยา ให้การต้อนรับโดยคุณขจรศักดิ์จากสถานีวิทยุคนเสื้อแดงพัทยา FM 89 Mhz
หาดแห่งนี้เป็นหาดส่วนตัวซึ่งเส้นทางสีแดงเคยแวะมาแล้วเมื่อกลางปี 2554 ตอนทำกิจกรรมต้านรัฐประหารทั่วประเทศ หลังจากนั้นได้กลับมาอีกสองครั้งในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกันซึ่งผมมาทำกิจกรรมแรลลี่เพื่อหาเงินและสิ่งของบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสพภัยน้ำท่วม ได้เงินและสิ่งของบริจาคจำนวนมาก ทั้งสองครั้งนำไปมอบให้กับคุณสมบัติ บุญงามอนงค์ที่ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสพอุทกภัยภาคประชาชน
มีเพื่อนในเฟซบุ้คและคนเสื้อแดงหลายคนแวะมาให้กำลังใจ หลังอาหารเย็น พวกเรากางเตนท์นอนกันริมชายหาด ผมตั้งใจที่จะให้ 2-3 วันแรกนักปั่นได้มีโอกาสพักผ่อนก่อนที่จะต้องเดินทางอย่างหนักตลอดโปรแกรมที่เหลือ
วันนี้เป็นวันที่ 6 พฤศิกายนและเป็นวันเกิดของลูกสาวผม ปีนี้เป็นปีที่สองแล้วที่ผมไม่มีโอกาสอยู่กับลูกสาวเนื่องจากต้องทำกิจกรรมให้กับคนเสื้อแดง ผมหวังว่าเมื่อลูกสาวของผมโตขึ้น เขาจะรู้ว่าสิ่งที่ผมทำลงไปมีค่ากับอนาคตของเธอและลูกหลานคนเสื้อแดงมากแค่ไหน
หลังจากเสร็จสิ้นการเยี่ยมคุณแม่วีรชน วสันต์ ภู่ทองแล้ว พวกเราแวะไปถายรูปที่บางปุซึ่งอยุ่ในเส้นทางขากลับเข้าสมุทรปราการ และไปพักที่บ้านของเสธดำแถวพระประแดง มีการสังสรรค์กันเล็กน้อยเพื่อเปิดโอกาสให้นักปั่นได้แนะนำตัวและทำความรู้จักกัน เย็นนั้นสถานี Asia Update นำข่าวการเยี่ยมครอบครัววีรชนมาเผยแพร่ในช่วงข่าวหนึ่งทุ่ม พวกเราร่วมกันชมด้วยความภูมิใจว่ากิจกรรมวันแรกเป็นข่าวไปทั่วประเทศ
เช้าวันที่ 2 ของกิจกรรม เป้าหมายอยู่ที่บางแสน ระยะทาง 71 กม. ก่อนออกเดินทางพวกเรานำรถจักรยานทุกคันไปตรวจความเรียบร้อย ทำการเปลี่ยนยางอะไหล่ ปรับแต่งเกียร์ เบรค ให้เข้าที่ รถจักรยานทุกคันจะต้องอยู่ในสภาพพร้อมเดินทางไกลข้ามประเทศ
พวกเราเริ่มออกเดินทางในเวลา 10 โมงเช้า ถนนบางนา-ตราดในเช้าวันจันทร์รถหนาแน่น พวกเราต้องปั่นจักรยานชิดซ้ายและต้องระวังรถบรรทุกที่ขับด้วยความเร็วและต้องทนกับกลิ่นควันจากท่อไอเสีย บรรยากาศเป็นเช่นนี้แทบทั้งวัน พวกเราถึงบางแสนในเวลาเย็น เดิมทีตั้งใจว่าจะปั่นจักยานรอบหาดบางแสนแต่ปรากฏว่าเมื่อถึงทางลงหาดบางแสนฝนได้เทลงมาอย่างหนัก พวกเราต้องแวะหลบฝนข้างทาง
กิจกรรมที่บางแสนประสานงานโดยคุณ Win Puston และคุณ New Red Sunday จากเฟสบุ้ค มีครูอ้อแกนนำบางแสนเป็นผู้ให้การต้อนรับ พวกเราเดินทางถึงบ้านพักในเวลาเกือบค่ำ คนเสื้อแดงหลายคนรอต้อนรับนักปั่นเส้นทางสีแดงที่ปากประตูด้วยแป้งเหมือนกับเทศกาลสงกรานต์ เป็นบรรยากาศที่น่ารักและเป็นกันเอง
เย็นวันนั้นมีเวทีเล็กๆในบ้าน ผมคิดว่าบรรยากาศกาศต้อนรับวันนั้นเป็นวันที่ประทับใจที่สุดวันหนึ่ง มีคนเสื้อแดงหลายกลุ่มนำอาหารมาร่วมงานซึ่งล้วนแต่น่ารับประทาน คุณ New Red Sunday นำหมูย่างเมืองตรังทั้งตัวมาเป็นของฝาก ผมไม่ได้มีโอกาสชิมอาหารรสเลิศมากเท่าไหร่นักเพราะต้องตอบคำถามเกี่ยวกับกิจกรรมที่ผ่านมา โดยเฉพาะการขึ้นเวทีคนไทยหัวใจรักชาติในปี 2554
ตอนที่ขึ้นเวที ผมได้กล่าวแนะนำกิจกรรมเส้นทางสีแดงและได้สนับสนุนการเคลื่อนไหวของเสรีชนที่่ยึดอุดมการณ์เป็นหลัก และที่สำคัญได้ย้ำว่าเสรีชนที่รักประชาธิปไตยควรมีโอกาสในการแสดงออกทางความคิดโดยไม่ต้องกังวลกับคำว่าแดงแท้หรือแดงเทียม ผมไม่รู้ว่าคำกล่าวนั้นจะทำให้คนเสื้อแดงในงานรู้สึกอย่างไร ผมคิดแต่เพียงว่าควรทำความเข้าใจกับคนเสื้อแดงให้มีความมั่นใจในการแสดงออกตราบเท่าที่ไม่ขัดกับอุดมการณ์ประชาธิปไตย
เช้าวันถัดมาพวกเราออกเดินทางต่อไปยังพัทยา ระยะทางจากบางแสนไปพัทยาคือ 90 กม. พวกเราแวะสวนสาธารณะบางพระในช่วงสาย แวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับพี่น้องเสื้อแดงชมรมรักษ์ประชาธิปไตยแหลมฉบัง จากนั้นมุ่งหน้าพัทยา แวะพักทานอาหารเที่ยงที่หน้า Lotus ศรีราชา
แดดในวันนั้นแรงมาก พวกเราต้องปั่นจักรยานตากแดดตลอดวัน ช่วงบ่ายมีฝนตกหนักทำให้ต้องแวะจอดพักข้างทาง กว่าจะถึงหน้าศาลาว่าการเมืองพัทยาซึ่งเป็นสถานที่นัดหมายเกือบ 5 โมง จากนั้นเข้าที่พักบริเวณสโมสรร่มบินพัทยา ให้การต้อนรับโดยคุณขจรศักดิ์จากสถานีวิทยุคนเสื้อแดงพัทยา FM 89 Mhz
หาดแห่งนี้เป็นหาดส่วนตัวซึ่งเส้นทางสีแดงเคยแวะมาแล้วเมื่อกลางปี 2554 ตอนทำกิจกรรมต้านรัฐประหารทั่วประเทศ หลังจากนั้นได้กลับมาอีกสองครั้งในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกันซึ่งผมมาทำกิจกรรมแรลลี่เพื่อหาเงินและสิ่งของบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสพภัยน้ำท่วม ได้เงินและสิ่งของบริจาคจำนวนมาก ทั้งสองครั้งนำไปมอบให้กับคุณสมบัติ บุญงามอนงค์ที่ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสพอุทกภัยภาคประชาชน
มีเพื่อนในเฟซบุ้คและคนเสื้อแดงหลายคนแวะมาให้กำลังใจ หลังอาหารเย็น พวกเรากางเตนท์นอนกันริมชายหาด ผมตั้งใจที่จะให้ 2-3 วันแรกนักปั่นได้มีโอกาสพักผ่อนก่อนที่จะต้องเดินทางอย่างหนักตลอดโปรแกรมที่เหลือ
วันนี้เป็นวันที่ 6 พฤศิกายนและเป็นวันเกิดของลูกสาวผม ปีนี้เป็นปีที่สองแล้วที่ผมไม่มีโอกาสอยู่กับลูกสาวเนื่องจากต้องทำกิจกรรมให้กับคนเสื้อแดง ผมหวังว่าเมื่อลูกสาวของผมโตขึ้น เขาจะรู้ว่าสิ่งที่ผมทำลงไปมีค่ากับอนาคตของเธอและลูกหลานคนเสื้อแดงมากแค่ไหน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น