14 September 2012 at 16:44
29. เยียวยาวีรชนอำนาจเจริญ เยี่ยมคุณพ่อวีรชนโรงพยาบาลยโสธร
เช้าวันที่ 30 มค. ผมตรวจสอบจากบันทึกการเดินทาง พบว่าพวกเราทำกิจกรรมมาแล้ว 22 วัน เดินทางด้วยการปั่นจักรยานมาแล้วกว่า 1,600 กม. ยังเหลืออีก 4 จังหวัดและระยะทางอีกไม่ต่ำกว่า 500 กม.กว่าจะเข้ากัมพูชา ในวันนั้นพวกเราต้องเดินทางไปเยี่ยมพี่น้องเสื้อแดงที่อ.ชานุมาน และไปเยี่ยมครอบครัววีรชนที่อ.ปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ ระยะทางประมาณ 90 กม.
พวกเราปั่นจักรยานถึงอ.ชานุมานในเวลาประมาณเที่ยงวัน แวะทานข้าวที่วัดศรีสมบูรณ์ซึ่งมีพี่น้องเสื้อแดงชานุมานมารอต้อนรับหลายสิบคน หลังจากรับประทานอาหารร่วมกันได้ถ่ายรุปเป็นที่ระลึก ภาพออกมาเป็นธรรมชาติมาก ได้บรรยากาศการเยี่ยมชาวบ้านที่อีสานแท้ๆ จากการสนทนากับคุณลุงดาซึ่งเป็นแกนนำชาวบ้านเล่าว่าอำเภอชานุมานมีทั้งหมด 53 หมู่บ้าน เกือบทั้งหมดเป็นหมุ่บ้านเสื้อแดง
หลังจากพักผ่อนหายเหนื่อย พวกเราได้ออกเดินทางโดยการปั่นจักรยานต่อไปยังอ.ปทุมราชวงศา ถึงบ้านของวีรชนที่เสียชีวิตในเวลาเย็น ได้สนทนากับคุณแม่และน้องชายของวีรชน พบว่าผู้เสียชีวิตชื่อนายวุฒิชัย วราคำ อายุ 21 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 พค. เวลา 15.00 น. จากการถูกยิงที่ซอยรางน้ำ ข้อมูลจากการชันสูตรของโรงพยาบาลรามาพบว่าเสียชีวิตจากการถูกทหารยิงจากด้านหลัง กระสุนผ่านขั้วยึดลำไส้และตับ กระบังลมด้านขวา ทะลุซี่โครงด้านหน้า
เอกสารจากการชันสูตรศพของพนักงานสอบสวนแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทหารยิงประชาชนจากด้านหลังในขณะที่ประชาชนวิ่งหนี ไม่ได้เสียชีวิตเพราะการยิงต่อสู้ตามที่ศอฉ.และอภิสิทธิสุเทพมักกล่าวอ้าง การยิงประชาชนมือปล่าจากด้านหลังในเวลากลางวันเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุแน่นอน และการกระทำที่เกินกว่าเหตุในการสลายการชุมนุมย่อมไม่ได้รับการคุ้มครองตามพรก.ฉุกเฉิน
พวกเราได้มอบเงินบริจาคที่ได้รับจากคุณมัทรีที่รวบรวมน้ำใจจากพี่น้องโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานีให้กับครอบครัววีรชนจำนวน 1,000 บาท พร้อมกับมอบพระเครื่อง 1 องค์ที่ได้รับจากคุณพ่อของผู้ต้องขังที่มุกดาหาร พร้อมกับถ่ายรูปการมอบเงินบริจาคเพื่อเป็นหลักฐาน
คืนนั้นพวกเราพักค้างคืนที่บ้านของวีรชนและออกเดินทางในเวลา 8.00 น.ของวันที่ 31 มค. คุณแม่คำจันทร์ซึ่งเป็นมารดาของวีรชนและครอบครัวได้มอบช่อดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับกลุ่มเส้นทางสีแดง และได้ร่วมเดินทางไปส่งกลุ่มเส้นทางสีแดงที่ยโสธรด้วย โปรแกรมในวันนั้นคือการไปเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตที่อ.เลิงนกทา และอ.เมืองยโสธร
พวกเราถึงอ.เลิงนกทาในเวลาเที่ยงวัน แวะไปทักทายคนเสื้อแดงที่ทำการของนปช.เลิงนกทา หลังจากนั้นได้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตที่อยุ่ไม่ไกล เป็นบ้านหลังเล็กๆ มีมารดาที่ชราภาพและน้องชายของผู้เสียชีวิตรออยู่ในบ้าน ผู้เสียชีวิตเป็นอดีตทหารพรานชื่อนายประจวบ ศิลาพันธ์ พวกเราได้มอบเงินบริจาคเพื่อเยียวยาให้กับมารดาของวีรชนจำนวน 1,000 บาท หลังจากนั้นได้ปั่นจักรยานไปเยี่ยมบิดาของวีรชนท่านหนึ่งที่ต้องเข้าโรงพยาบาลผ่าตัดฉุกเฉินในคืนก่อนหน้าที่โรงพยาบาลยโสธซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัด
พวกเราถึงโรงพยาบาลยโสธรในเวลา 16.00 น. ได้ไปที่ตึกศัลยกรรมชาย 7 เพื่อนำช่อดอกไม้ที่ได้รับจากปทุมราชวงศามอบให้กับคุณพ่อเพิ่ม พระสุพรรณซึ่งออกจากห้องผ่าตัดแล้วแต่ยังนอนอยู่บนเตียงคนไข้ บุตรชายของคุณพ่อเพิ่มเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมในปี 2553 พวกเราได้มอบเงินบริจาคจำนวน 1,000 บาท หลังจากนั้นได้มีภรรยาของผู้เสียชีวิตที่อ.ป่าติ้วเดินทางมาสมทบที่โรงพยาบาลพร้อมกับบุตรชาย พวกเราได้มอบเงินบริจาคให้อีก 1,000 บาทพร้อมกับถ่ายรูปเพื่อเป็นหลักฐาน เงินบริจาคที่มอบให้ในวันนีั้นทั้งหมดเป็นของพี่น้องเสื้อแดงจากโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์และคุณมัทรี รัตโน เพื่อนเฟซบุ้คจากอุบลราชธานี - ขอขอบคุณมาณ.โอกาสนี้
ภาพของคนเสื้อแดงนับสิบคนที่เดินทางเข้าไปเยี่ยมผู้ป่วยในโรงพยาบาลได้เรียกรอยยิ้มให้กับผู้พบเห็น เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลทั้งหมอและนางพยาบาลต่างต้อนรับพวกเราด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ภาพการมอบดอกไม้และเงินบริจาคให้กับคุณพ่อของวีรชนถึงเตียงผู้ป่วยที่โรงพยาบาลเป็นอีกภาพหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความรักและความผูกพันของคนเสื้อแดงได้เป็นอย่างดี สำหรับผม ภาพนั้นเป็นภาพที่อ่อนโยนที่สุดของกิจกรรมเส้นทางสีแดง สิ่งที่พวกเราทำลงไปตลอดการเดินทางร่วมหมื่นกิโลก็เพื่อสร้างความผูกพันและร้อยเรียงดวงใจของคนเสื้อแดงให้เป็นหนึ่งเดียว
เช้าวันที่ 30 มค. ผมตรวจสอบจากบันทึกการเดินทาง พบว่าพวกเราทำกิจกรรมมาแล้ว 22 วัน เดินทางด้วยการปั่นจักรยานมาแล้วกว่า 1,600 กม. ยังเหลืออีก 4 จังหวัดและระยะทางอีกไม่ต่ำกว่า 500 กม.กว่าจะเข้ากัมพูชา ในวันนั้นพวกเราต้องเดินทางไปเยี่ยมพี่น้องเสื้อแดงที่อ.ชานุมาน และไปเยี่ยมครอบครัววีรชนที่อ.ปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ ระยะทางประมาณ 90 กม.
พวกเราปั่นจักรยานถึงอ.ชานุมานในเวลาประมาณเที่ยงวัน แวะทานข้าวที่วัดศรีสมบูรณ์ซึ่งมีพี่น้องเสื้อแดงชานุมานมารอต้อนรับหลายสิบคน หลังจากรับประทานอาหารร่วมกันได้ถ่ายรุปเป็นที่ระลึก ภาพออกมาเป็นธรรมชาติมาก ได้บรรยากาศการเยี่ยมชาวบ้านที่อีสานแท้ๆ จากการสนทนากับคุณลุงดาซึ่งเป็นแกนนำชาวบ้านเล่าว่าอำเภอชานุมานมีทั้งหมด 53 หมู่บ้าน เกือบทั้งหมดเป็นหมุ่บ้านเสื้อแดง
หลังจากพักผ่อนหายเหนื่อย พวกเราได้ออกเดินทางโดยการปั่นจักรยานต่อไปยังอ.ปทุมราชวงศา ถึงบ้านของวีรชนที่เสียชีวิตในเวลาเย็น ได้สนทนากับคุณแม่และน้องชายของวีรชน พบว่าผู้เสียชีวิตชื่อนายวุฒิชัย วราคำ อายุ 21 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 พค. เวลา 15.00 น. จากการถูกยิงที่ซอยรางน้ำ ข้อมูลจากการชันสูตรของโรงพยาบาลรามาพบว่าเสียชีวิตจากการถูกทหารยิงจากด้านหลัง กระสุนผ่านขั้วยึดลำไส้และตับ กระบังลมด้านขวา ทะลุซี่โครงด้านหน้า
เอกสารจากการชันสูตรศพของพนักงานสอบสวนแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทหารยิงประชาชนจากด้านหลังในขณะที่ประชาชนวิ่งหนี ไม่ได้เสียชีวิตเพราะการยิงต่อสู้ตามที่ศอฉ.และอภิสิทธิสุเทพมักกล่าวอ้าง การยิงประชาชนมือปล่าจากด้านหลังในเวลากลางวันเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุแน่นอน และการกระทำที่เกินกว่าเหตุในการสลายการชุมนุมย่อมไม่ได้รับการคุ้มครองตามพรก.ฉุกเฉิน
พวกเราได้มอบเงินบริจาคที่ได้รับจากคุณมัทรีที่รวบรวมน้ำใจจากพี่น้องโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานีให้กับครอบครัววีรชนจำนวน 1,000 บาท พร้อมกับมอบพระเครื่อง 1 องค์ที่ได้รับจากคุณพ่อของผู้ต้องขังที่มุกดาหาร พร้อมกับถ่ายรูปการมอบเงินบริจาคเพื่อเป็นหลักฐาน
คืนนั้นพวกเราพักค้างคืนที่บ้านของวีรชนและออกเดินทางในเวลา 8.00 น.ของวันที่ 31 มค. คุณแม่คำจันทร์ซึ่งเป็นมารดาของวีรชนและครอบครัวได้มอบช่อดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับกลุ่มเส้นทางสีแดง และได้ร่วมเดินทางไปส่งกลุ่มเส้นทางสีแดงที่ยโสธรด้วย โปรแกรมในวันนั้นคือการไปเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตที่อ.เลิงนกทา และอ.เมืองยโสธร
พวกเราถึงอ.เลิงนกทาในเวลาเที่ยงวัน แวะไปทักทายคนเสื้อแดงที่ทำการของนปช.เลิงนกทา หลังจากนั้นได้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตที่อยุ่ไม่ไกล เป็นบ้านหลังเล็กๆ มีมารดาที่ชราภาพและน้องชายของผู้เสียชีวิตรออยู่ในบ้าน ผู้เสียชีวิตเป็นอดีตทหารพรานชื่อนายประจวบ ศิลาพันธ์ พวกเราได้มอบเงินบริจาคเพื่อเยียวยาให้กับมารดาของวีรชนจำนวน 1,000 บาท หลังจากนั้นได้ปั่นจักรยานไปเยี่ยมบิดาของวีรชนท่านหนึ่งที่ต้องเข้าโรงพยาบาลผ่าตัดฉุกเฉินในคืนก่อนหน้าที่โรงพยาบาลยโสธซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัด
พวกเราถึงโรงพยาบาลยโสธรในเวลา 16.00 น. ได้ไปที่ตึกศัลยกรรมชาย 7 เพื่อนำช่อดอกไม้ที่ได้รับจากปทุมราชวงศามอบให้กับคุณพ่อเพิ่ม พระสุพรรณซึ่งออกจากห้องผ่าตัดแล้วแต่ยังนอนอยู่บนเตียงคนไข้ บุตรชายของคุณพ่อเพิ่มเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมในปี 2553 พวกเราได้มอบเงินบริจาคจำนวน 1,000 บาท หลังจากนั้นได้มีภรรยาของผู้เสียชีวิตที่อ.ป่าติ้วเดินทางมาสมทบที่โรงพยาบาลพร้อมกับบุตรชาย พวกเราได้มอบเงินบริจาคให้อีก 1,000 บาทพร้อมกับถ่ายรูปเพื่อเป็นหลักฐาน เงินบริจาคที่มอบให้ในวันนีั้นทั้งหมดเป็นของพี่น้องเสื้อแดงจากโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์และคุณมัทรี รัตโน เพื่อนเฟซบุ้คจากอุบลราชธานี - ขอขอบคุณมาณ.โอกาสนี้
ภาพของคนเสื้อแดงนับสิบคนที่เดินทางเข้าไปเยี่ยมผู้ป่วยในโรงพยาบาลได้เรียกรอยยิ้มให้กับผู้พบเห็น เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลทั้งหมอและนางพยาบาลต่างต้อนรับพวกเราด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ภาพการมอบดอกไม้และเงินบริจาคให้กับคุณพ่อของวีรชนถึงเตียงผู้ป่วยที่โรงพยาบาลเป็นอีกภาพหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความรักและความผูกพันของคนเสื้อแดงได้เป็นอย่างดี สำหรับผม ภาพนั้นเป็นภาพที่อ่อนโยนที่สุดของกิจกรรมเส้นทางสีแดง สิ่งที่พวกเราทำลงไปตลอดการเดินทางร่วมหมื่นกิโลก็เพื่อสร้างความผูกพันและร้อยเรียงดวงใจของคนเสื้อแดงให้เป็นหนึ่งเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น